บุรีรัมย์ - บุรีรัมย์ก็เอาไม่อยู่ พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดระลอกใหม่เพิ่มอีก 7 ราย ทำยอดผู้ป่วยสะสมพุ่งเป็น 22 ราย ด้าน กก.โรคติดต่อจังหวัดยังคุมเข้มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด หากใครฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ
วันนี้ (4 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดบุรีรัมย์พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่เมษายน เพิ่มอีก 7 ราย จากที่ก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 15 ราย รวมเป็นยอดผู้ป่วยสะสมล่าสุดขณะนี้จำนวน 22 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย ประกอบด้วย รายที่ 16 เป็นหญิง อายุ 35 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ภูมิลำเนาบางแค กรุงเทพฯ, รายที่ 17 หญิงไทย อายุ 21 ปี นักศึกษา ภูมิลำเนาอยู่ ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์, รายที่ 18 เพศชาย อายุ 21 ปี นักศึกษาพยาบาล ภูมิลำเนาตำบลจระเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์, รายที่ 19 เพศชาย อายุ 24 ปี อาชีพฟรีแลนซ์ ภูมิลำเนาตำบลสตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์, รายที่ 20 หญิงไทย อายุ 22 ปี นักศึกษา ภูมิลำเนา ต.ประทัดบุ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์, รายที่ 21 เพศชาย อายุ 25 ปี อาชีพฟรีแลนซ์ ภูมิลำเนา ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และรายที่ 22 เป็นเพศชาย อายุ 33 ปี อาชีพขับรถส่งของ ภูมิลำเนา ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลในพื้นที่อำเภอต่างๆ
ขณะที่ประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ได้ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 2 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม นนทบุรี ชลบุรี และ จ.เชียงใหม่ จะต้องกรอกแบบคำถามสุขภาพ ต.8 บร. หรือลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันที่ทางราชการกำหนด (ไทยชนะ, หมอชนะ) และไปรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน/ประธานชุมชน อสม. หรือศูนย์คัดกรองโควิด- 19 ประจำหมู่บ้าน เข้ารับการตรวจ Rapid Antigen Test ในกรณีที่ อสม.หรือศูนย์โควิดประจำชุมชนคัดกรองแล้วว่ามีความเสี่ยงสูง หากความเสี่ยงต่ำ และไม่จำเป็นต้องตรวจ Rapid Test ทางโรงพยาบาลจะออกเอกสารรับรองว่าได้ดำเนินการสอบสวนโรคแล้ว และสามารถกลับภูมิลำเนาของตนได้ ส่วนที่เดินทางด้วยเครื่องบินผ่านการตรวจที่สนามบิน ผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟ รถส่วนตัว รถโดยสาร ตรวจที่โรงพยาบาลของรัฐในอำเภอที่ท่านเดินทางมา
กรณีตรวจแล้วพบเชื้อให้ตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์อีกครั้งด้วยวิธี RT-PCR กรณีไม่พบเชื้อ ขอให้คำนึงถึงมาตรการ สวมมาสก์ เว้นระยะห่าง ล้างมือ และตรวจวัดอุณหภูมิของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ชุมชนที่มีคนหมู่มาก หากไม่ประสงค์จจะตรวจหาเชื้อต้องกักตัว 14 วัน หรือเมื่อกักตัวครบ 7 วันแล้วให้ทำการตรวจหาเชื้อ ผู้ที่ฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ นอกเหนือจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงตามประกาศ ไม่ต้องกักตัวหรือตรวจหาเชื้อโควิด แต่หากต้องการตรวจต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง 600 บาท
