ศูนย์ข่าวศรีราชา -ป.ป.ช.ชลบุรี ร่วมป่าไม้บางละมุง ตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนเขาไผ่ หลังชาวบ้าน และกลุ่มอนุรักษ์ร้องนายทุน-ชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางทำการเกษตรทำลายพื้นที่ป่าต้นน้ำเสียหายหลายร้อยไร่ เร่งหารือ ผวจ.หาแนวทางแก้ไขในวันนี้
เย็นวานนี้ (7 เม.ย.) รศ.ดร.มาณี ไชยธีรานุวัฒน์สิริ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายกฤษติพงค์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ชลบุรี และนายจักรกฤษณ์ แสงกุหลาบ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้บางละมุง รวมทั้งฝ่ายปกครองบางละมุง ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสภาพป่าสงวนแห่งชาติบริเวณเขาไผ่ ม.1 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์ ที่ประกอบด้วย กลุ่มคนรักษ์เขาไผ่ ชมรมจักรยานเสือภูเขาบางละมุง ชมรมรถยนต์ออฟโรดบางละมุง นำโดย นายสุไอนี เพียรดี ว่าปัจจุบันพื้นที่ป่าสงวนเขาไผ่ได้ถูกกลุ่มนายทุนและชาวบ้านบางส่วนบุกรุกแผ้วถางจนทำให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง แต่หน่วยงานรัฐกลับไม่มีการควบคุมและบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการนำรถขึ้นสำรวจตลอดแนวเขาไผ่ ซึ่งกินเนื้อที่กว่า 1,900 ไร่ พบตลอดแนวเชิงเขามีการปลูกไร่มันสำปะหลัง และไร่สับปะรด รวมถึงปลูกต้นยางพาราจำนวนหลายร้อยไร่ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการบุกรุกแผ้วถางแนวพื้นที่ป่าสงวน หรือเป็นที่ ส.ป.ก.ที่รัฐจัดสรรให้ประชาชนได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
เนื่องจากยังไม่มีการปักหมุดแนวเขตจากกรมป่าไม้ที่ชัดเจน เบื้องต้น จึงได้เร่งรัดให้กรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำการสำรวจ พร้อมทั้งเฝ้าระวังและดำเนินการอย่างจริงจัง โดยห้ามเพิกเฉยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อร่วมรักษาผืนป่าสำคัญแห่งนี้ที่เป็นต้นน้ำใน อ.บางละมุง ให้คงสภาพความสมบูรณ์มากที่สุด
ขณะที่ นายสุไอนี เพียรดี แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ป่าเขาไผ่ เผยว่า ป่าแห่งนี้เป็นต้นน้ำสำคัญที่มีธารน้ำไหลไปสู่อ่างเก็บน้ำมาบประชัน อ่างชากนอก และหนองปลาไหล และยังเป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับใช้ผลิตน้ำประปาให้แก่เมืองพัทยา แต่จากการเข้าสำรวจร่วมกับกลุ่มชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์กลับพบว่ามีการแผ้วถางบุกรุกผืนป่าสงวนเป็นจำนวนมาก
และที่ผ่านมาได้มีความพยายามที่จะร้องเรียนและแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้ามากำกับดูแลอย่างจริงจัง รวมทั้งเร่งสำรวจและปักหมุดแนวเขตป่าสงวนเพื่อกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนอันจะส่งผลประโยชน์ต่อการระบุพื้นที่ให้กลุ่มอนุรักษ์เข้ามาดูแลและฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมามีความสมบูรณ์มากขึ้น จึงเป็นที่มาของการแจ้งไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.ชลบุรี
ด้าน นายจักรกฤษณ์ แสงกุหลาบ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้บางละมุง ระบุว่า ในปี 2558 กรมป่าไม้ ได้เข้าสำรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าวและพบว่ามีการบุกรุกแผ้วถางเพื่อปลูกยางพารา ตามแนวเชิงเขาจำนวน 2 แปลง รวม 171 ไร่
แต่จากการสอบสวนไม่พบตัวผู้กระทำผิด อัยการ จึงงดการสอบสวนส่งฟ้อง จากนั้นจึงได้ทำการปิดประกาศเพื่อทำการรื้อถอนก่อนที่ กรมป่าไม้ จะเข้ามาตัดไม้ยางพาราที่รุกล้ำออกทั้งหมดในปี 2562 และปัจจุบันได้นำที่ดินแหล่านี้มาพัฒนาและจัดทำโครงการปลูกป่าทดแทนเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
ขณะที่พื้นที่แนวเชิงเขาโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นเขตพื้นที่ปฏิรูป หรือที่ดินแบบ ส.ป.ก.ที่รัฐได้จัดสรรให้ประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรม อย่างไรก็ตาม อาจมีพื้นที่บางส่วนที่มีชาวบ้านที่อยู่อาศัยมานานเข้าไปทำการแผ้วถางป่าเพื่อทำไร่เกษตรกรรมแบบพืชล้มลุก ซึ่งก็ได้ประสานให้ทางผู้นำท้องถิ่นให้เข้าประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านยุติการกระทำดังกล่าว
ด้าน รศ.ดร.มาณี ไชยธีรานุวัฒน์สิริ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่าในวันที่ 8 เม.ย.นี้ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อหาแนวทางที่ชัดเจนในการรักษา ป้องกันและอนุรักษ์ป่าต่อไป