เชียงใหม่ - ปธ.สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ เผย กำลังประเมินสถานการณ์หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่นำเชื้อเข้าพื้นที่ เบื้องต้นยังเชื่อไม่ส่งผลกระทบ มั่นใจทีมสาธารณสุขควบคุมอยู่หมัดในวงจำกัด
วันนี้ (6 เม.ย.) นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วานนี้ จำนวน 4 ราย และล่าสุด วันนี้อีก 2 ราย ว่า ขณะนี้ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ประกอบการ รวมทั้งหน่วยงานเกี่ยวข้องกำลังเร่งประเมินสถานการณ์ร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นยอมรับว่า การพบผู้ป่วยรายใหม่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน ถือเป็นสัญญาณด้านลบอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ยังมองแง่ดีว่าจากข้อมูลไทม์ไลน์ของผู้ป่วยที่แจ้งไว้ ไม่พบว่าไม่ได้ไปในสถานที่ที่น่าเป็นห่วง เช่น ผับ บาร์ หรือสถานบันเทิง เป็นต้น และไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมใดๆ ที่เป็นการชุมนุมคนหมู่มาก โดยมีเพียงการไปห้างสรรพสินค้าที่มีมาตรการป้องกันอย่างดี และไปตลาดนัดที่เป็นลักษณะเปิดโล่ง ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงค่อนข้างน้อยที่จะเกิดการแพร่กระจายของเชื้อ
ขณะที่ในส่วนของผู้ป่วยที่เป็นชายชาวจีนนั้น ยังเชื่อว่า น่าจะมีการปฏิสัมพันธ์อยู่ในวงจำกัดเฉพาะในครอบครัวและกลุ่มคนใกล้ชิด หรือชาวจีนด้วยกันเท่านั้น ซึ่งหากข้อมูลไทม์ไลน์ทั้งหมดถูกต้องตามความเป็นจริงแล้ว มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่น่าจะคัดกรองผู้สัมผัสเสี่ยงและควบคุมได้ง่าย โดยมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าทางทีมงานควบคุมโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สามารถควบคุมสถานการณ์ในครั้งนี้ให้จำกัดอยู่ในวงแคบได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นการนำเข้าเชื้อจากนอกพื้นที่ และเมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อได้เริ่มสอบสวนควบคุมโรคทันที ประกอบกับที่ผ่านมาเคยเจอกับสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงมากกว่านี้มาแล้วและสามารถจัดการได้ด้วยดี
ทั้งนี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ระบุด้วยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลยังไม่ปรากฏว่า การพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยพบว่า จำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ยังคงมีแนวโน้มดีเฉลี่ยวันละประมาณ 7,000 คน และน่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผู้คนเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยว ส่วนอัตราการจองห้องพักโรงแรมยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม กำลังประเมินสถานการณ์และสรุปความชัดเจนอีกครั้ง โดยยังเชื่อมั่นว่า หน่วยงานเกี่ยวข้องสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้และจะไม่กระทบความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว.