ศูนย์ข่าวศรีราชา - สลด ! 2 หนุ่มขี่ จยย. ตกหลุมตอม่อถนน 331 บ้านมาบคล้า ชลบุรี ดับอนาถ 1 ราย สาหัส 1 ราย กู้ภัยชี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเพราะไม่มีป้ายเตือน แสงสว่างน้อย จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ไขด่วน
เมื่อเวลา 05.30 น.วันนี้ (6 เม.ย.) พ.ต.ท.ราเมศ เนตรจินดา รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.คลองกิ่ว ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง ว่า เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ตกหลุมตอม่อ บนถนน 331 (ขาเข้าสัตหีบ) บ้านมาบคล้า ม.4 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 จึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ
พบที่เกิดเหตุอยู่บริเวณถนนช่วงที่กำลังมีการก่อสร้าง และยังมีการขุดหลุมฝังตอม่อ ลึกประมาณ 150 เซนติเมตร โดยพบร่างของผู้เสียชีวิตคือ นายกฤษณะ ไชยสาร อายุประมาณ 23 ปี สภาพนอนหงาย แขน ขา กระดูกซี่โครง และคอหัก อยู่บริเวณก้นหลุมที่มีเสาคอนกรีตนับ 10 ต้น
ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 125 ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กช 4977 อุดรธานี สภาพพังเสียหายยับเยิน
นอกจากนั้น ยังพบ นายบรรณวิทิต สวัสดิ์นาที อายุ 23 ปี อยู่ที่ก้นหลุมตอม่อที่อยู่ถัดไปอีกประมาณ 4 เมตร สภาพบาดเจ็บสาหัส เจ็บปวดบริเวณแผ่นหลังและหัวไหล่ทั้ง 2 ข้าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านบึง
จากการสอบถาม นายไชยวิทย์ จันบัวลา อายุ 24 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต ทราบว่า หลังเลิกจากการทำงานล่วงเวลาที่ตลาดมาบปู ตนเองพร้อมเพื่อนได้พากันขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนซึ่งมีที่พักอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ กระทั่งรุ่งเช้าจึงพากันเดินทางกลับเพื่อเตรียมตัวทำงาน
กระทั่งขี่รถจักรยานยนต์มาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งมีผิวจราจรขรุขระตนเองจึงชะลอรถ และกำลังจะตะโกนบอกผู้เสียชีวิตไม่ให้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาบริเวณดังกล่าว แต่ไม่ทันเนื่องจากผู้เสียชีวิตและเพื่อนที่ซ้อนท้ายมาด้วยกันได้ตกลงไปในหลุมตอม่อแล้ว จึงรีบโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยให้เข้าช่วยเหลือ
พร้อมยังบอกอีกว่า ตนเองและเพื่อนไม่ทราบว่าถนนบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างและปิดใช้งาน เนื่องจากไม่มีป้ายบอกเตือน อีกทั้งแสงสว่างยังไม่เพียงพอ ประกอบกับตนเองและเพื่อนไม่คุ้นเคยเส้นทางจึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น
ด้าน นายนพเก้า สบแก้ว อาสากู้ภัยจุดมาบคล้า เผยว่า ถนนสายนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างและมักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง จึงฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนควรระมัดระวัง
พร้อมฝากวอนไปยังผู้รับผิดชอบให้เร่งเพิ่มแสงสว่างบริเวณดังกล่าวและให้จัดทำป้ายเตือนที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น