xs
xsm
sm
md
lg

ฆ่ากลางเมืองลพบุรี! หนุ่มพัทลุงถูกยิงทะลุกระจกรถปีนฟุตปาธเสียชีวิตริมถนน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





ลพบุรี - คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์เก๋งกลางเมืองลพบุรี กระสุนทะลุประตูรถเข้าไปเจาะร่างของหนุ่มคนขับ ซึ่งพยายามขับรถหนี จนเกิดอาการวูบหมดสติเพราะเสียเลือดมาก ก่อนที่รถปีนฟุตปาธเสียชีวิตคารถ

เวลา 02.30 น.วันนี้ (6 เม.ย.) เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการกู้ชีพลพบุรี มีผู้แจ้งทางโทรศัพท์ ว่า มีรถยนต์เก๋งเสียหลักตกข้างทางถนนพหลโยธิน 1 ขาออกตัวเมืองลพบุรี ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 151 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีแดงเลือดหมู หมายเลขทะเบียน กย 9098 ลพบุรี จอดติดเครื่องยนต์อยู่ในป่าข้างทาง


ภายในรถพบคนขับเป็นชายนอนหมดสติ เรียกไม่ตอบรับ และพบว่ามีเลือดไหลออกมาจากท้อง อาสาสมัครจึงใช้อุปกรณ์ทุบกระจก นำตัวคนขับออกมาทำการช่วยเหลือ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายพงษ์เทพ ขันธเขต อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ซอย 1 ถนนพัฒนา ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิจึงได้ให้การช่วยเหลือ และเร่งทำ CPR เพื่อช่วยชีวิต และได้แจ้งประสานรถกู้ชีพ พร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราชเดินทางไปตรวจสอบอาการ และให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อทีมแพทย์ไปถึงจึงได้เข้าตรวจสอบอาการและตรวจหาชีพจรของผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่พบชีพจร และทีมแพทย์ยืนยันว่าเสียชีวิตไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิจึงได้แจ้งไปยัง ร.ต.ท.ดนัยเดช กรรณาริก รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เดินทางมาตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน


จากการตรวจสอบรถยนต์เก๋งของผู้ตายพบว่า ที่ประตูหน้าด้านคนขับมีร่องรอยการถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่รถ จำนวน 1 นัด จนกระสุนทะลุประตูรถเข้าไปใส่ด้านข้างลำตัวด้านขวาของนายพงษ์เทพ คนขับ จนทำให้มีเลือดไหลออกมาทำให้เสียชีวิต และขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจึงได้ทำการตรวจหาวัตถุพยานและเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุ

เบื้องต้น คาดว่าผู้ตายน่าจะออกมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง และมีคู่อริที่มีเรื่องกันตามมาแล้วยิงใส่ ซึ่งจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น