ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.สัตหีบตามยึดรถยนต์ MG จำนวน 4 ใน 16 คัน หลังผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา หลอกใช้เช็คปลอมซื้อจากบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขณะ GPS ระบุที่เหลืออีก 12 คัน ถูกซุกในหลายพื้นที่
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.นันทวุฒิ วุสรรณละออง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม นายองอาจ ทรัพย์มั่น อายุ 24 ปี ชาว จ.ชุมพร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอมหลอกซื้อรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจี (MG) จากพนักงานฝ่ายขาย บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จำนวน 18 คัน
โดยได้มีการส่งมอบแล้ว จำนวน 16 คัน และได้จ่ายค่ารถยนต์เป็นเช็คเงินสดของปลอมซึ่งแต่ละใบมีมูลค่าเพียง 1 บาทเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากระบบ GPS จนกระทั่งติดตามจนพบรถยนต์ 1 ในจำนวน 16 คันเป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์เทา หมายทะเบียนป้ายแดง ถ 1900 กรุงเทพมหานคร
และสามารถติดตามยึดคืนได้ในพื้นที่ ม.21 ต.รับรอ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านพ่อแม่ของผู้ต้องหา แต่ได้อ้างว่าลูกชายซื้อรถด้วยเงินสดและไม่รู้มาก่อนว่าเป็นรถที่หลอกซื้อมานั้น
วันนี้ (1 เม.ย.) พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบว่า มีรถยนต์ถูกซุกอยู่ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อีกจำนวน 4 คัน และเจ้าหน้าได้ตามยึดได้แล้วทั้งหมด ประกอบด้วยรถยนต์ SUV รุ่น ZS สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ถ 1808 กรุงเทพ
รถยนต์ SUV รุ่น ZS สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ล 8508 กรุงเทพ รถยนต์ SUV รุ่น ZS สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ฮ 1874 กรุงเทพ และรถกระบะ 4 ประตู รุ่น EXTENDER สีบรอนซ์เทา ทะเบียนป้ายแดง ย 0849 กรุงเทพ
เบื้องต้น ได้นำรถทั้งหมดส่งมอบให้ตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อเข้าสู่กระบวนการแล้ว และจากการตรวจสอบผ่านระบบ GPS ยังพบว่ามีรถที่ถูกซื้อมาด้วยเช็คปลอมซุกซ่อนอยู่ในท้องที่ สภ.นาจอมเทียน จำนวน 2 คัน สภ.บางละมุง 3 คัน ปราจีนบุรี 1 คัน สระแก้ว 1 คัน และกรุงเทพฯ อีก 5 คัน
จากการสอบถาม 1 ในผู้ครอบครองรถที่ถูกซื้อมาแบบผิดกฎหมายทราบว่า ได้รู้จักกับผู้ต้องหามาระยะหนึ่งหลังได้ติดต่อให้เข้ามาช่วยงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังจะเปิดตัว ซึ่งผู้ต้องหาได้ออกรถป้ายแดงทยอยนำมาให้ใช้ฟรีตั้งแต่วันที่ 23-26 มี.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้รู้สึกแปลกใจ
กระทั่งเมื่อนำรถมาใช้งานได้ไม่นานจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมายึดคืนโดยไม่คิดมาก่อนว่า ผู้ต้องหาซึ่งทำทีเป็นเจ้าของบริษัทฯ จะเป็นมิจฉาชีพหลอกซื้อรถจากบริษัทรถยนต์โดยใช้เช็คปลอม
