ศรีสะเกษ - ตำรวจ สภ.ปรางค์กู่บุกรวบพระฉาวสอนเสพกาม จับสึกตามประกาศคณะสงฆ์ให้ลากสิกขาออกจากความเป็นพระ เหตุผิดพระธรรมวินัยปฏิบัติผิดสอนผิดเพี้ยน พร้อมแจ้งข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ คุมตัวเข้าห้องขัง เจ้าตัวโวยขอความเป็นธรรม ลั่นไม่สนถูกสึกเดินหน้าสอนลูกศิษย์
วันนี้ (29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ บ้านกอกหวาน ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ นายเทเวศน์ มีศรี นายอำเภอปรางค์กู่ และ พ.ต.อ.พิทักษ์ จันทร์อบ ผกก.สภ.ปรางค์กู่ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปรางค์กู่ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ อส.บุกเข้าไปจับกุมหลวงตากรันยา หรือ พระกรันยา ถาวรธัมโม อายุ 59 ปี ประธานที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ
หลังจากที่คณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษได้ประกาศแถลงผลการสอบอธิกรณ์พระกรันยา ว่าสอนผิดเพี้ยนจากพระธรรมวินัยแก่ศิษยานุศิษย์ โดยในที่ประชุมสงฆ์ตามพระวินัยเป็นที่สุดแล้ว และการไม่ระลึกในการปฏิบัติผิดและสอนผิดเพี้ยนของพระกรันยา จึงมีมติสงฆ์เป็นที่สุดให้พระกรันยา ถาวรธัมโม ลาสิกขาออกจากความเป็นคณะสงฆ์ธรรมยุตตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และสั่งปิดที่พักสงฆ์ป่าเนื้อนาบุญ มิให้เป็นที่พักสงฆ์ในคณะสงฆ์ธรรมยุตตั้งแต่บัดนี้ จึงประกาศต่อสงฆ์ทั้งหลายให้ทราบมตินาสนะขับพระกรันยาออกจากคณะสงฆ์ธรรมยุตให้ทราบโดยทั่วกัน แถลงผลลงวันที่ 29 มี.ค. 64
แต่ว่าพระกรันยาไม่ยอมลาสิกขาบท เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปทำการควบคุมตัวพระกรันยานำตัวไปขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาท่ามกลางคณะศิษยานุศิษย์จำนวนมากที่พากันมาเฝ้าดูเหตุการณ์ จากนั้นนำตัวไปที่ สภ.ปรางค์กู่ และให้นายกรันยา หรืออดีตพระกรันยา ได้เปลี่ยนเป็นสวมชุดขาวเพราะถือว่าขาดความเป็นพระตามแถลงผลของคณะสงฆ์ธรรมยุตแล้ว และได้ถูกนำตัวเข้าไปควบคุมในห้องขังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งนายกรันยาได้นั่งสมาธิสงบนิ่งอยู่ภายในห้องควบคุมตัวโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลผ่านกล้องวงจรปิดตลอดเวลา
พ.ต.อ.พิทักษ์ จันทร์อบ ผกก.สภ.ปรางค์กู่ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการดำเนินการหลังจากที่คณะสงฆ์ธรรมยุตได้ประกาศให้พระกรันยาลาสิกขาออกจากความเป็นคณะสงฆ์ธรรมยุต โดยประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ซึ่งถือว่ามีผลทันที แต่ว่านายกรันยา หรือพระกรันยา ไม่ยอมลาสิกขาบท ดังนั้น นายอำเภอปรางค์กู่พร้อมกับตนจึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว และในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาว่า แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ และหากต่อไปมีเจ้าทุกข์มาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาอื่นใดก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่ม
ส่วนหากจะมีการขอประกันตัวนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ขัดข้อง แต่จะต้องทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้นเสียก่อนจึงจะอนุญาตให้ประกันตัวได้ ซึ่งหากว่านายกรันยาให้การรับสารภาพข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ ก็จะนำตัวนายกรันยาส่งฟ้องศาล จ.ศรีสะเกษ ในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.) ต่อไป
ต่อมา พระครูเขมะจิตตะสุนทร เจ้าอาวาสวัดถ้ำสระพงษ์ ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ และเป็นเจ้าคณะตำบลโสน (ธ) ซึ่งเป็นวัดต้นสังกัดของนายกรันยา หรืออดีตพระกรันยา ได้เข้ามาเยี่ยมนายกรันยาในห้องควบคุมตัว ซึ่งพระครูเขมะจิตตะสุนทรได้ขอให้นายกรันยาทำจิตใจให้สงบ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ขณะที่นายกรันยาได้กราบขอขมาพระครูเขมะจิตตะสุนทรที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงของคณะสงฆ์ธรรมยุตในครั้งนี้
นายกรันยา อินธนู หรืออดีตพระกรันยา ถาวรธัมโม กล่าวว่า ตนขอความเป็นธรรมจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากว่าตนพร้อมยอมรับตามมติคณะสงฆ์ธรรมยุตทุกประการ แต่ว่าการสอบสวนต่างๆ ตนไม่ได้เข้าไปนั่งฟังเพื่อแก้ข้อกล่าวหาด้วย แต่กลับมีประกาศออกมา ตนยินดีลาสิกขาบทตามประกาศ แต่ว่าตนขอให้มีพระอุปัชฌาย์มาประกอบพิธีลาสิกขาบทให้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม และไม่เห็นแก่ผ้ากาสาวพัสตร์ที่ตนสวมอยู่ กลับเข้ามาใช้กิริยากระชากลากดึง เหมือนกับว่าเป็นอาชญากรสำคัญ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตนจะถูกให้สึกจากความเป็นพระ แต่ตนพร้อมที่จะอบรมสั่งสอนศิษย์ตามแนวทางศีล 5 และการสอนแบบวิธีสะเทินน้ำสะเทินบกดับวิญญาณ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และทำให้บรรลุมรรคผลต่อไป