ศรีสะเกษ - “หลวงตากรันยา” เทศน์สอนเสพกามฉาวไม่หวั่นถูกเจ้าคณะจังหวัดฯ สั่งตรวจสอบเอาผิด ยันสอนเสพกามต่อ และเดินหน้าเชิญชวนพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี มาฝึกดำน้ำในถังพลาสติกเพื่อสำเร็จโพธิญาณ พร้อมชวนเจ้าคณะอำเภอ-ตำบลมาฝึกด้วย หากเกศาม้วนจะคุยกันรู้เรื่อง
วันนี้ (24 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี หลวงตากรันยา ถาวรธัมโม อายุ 59 ปี ประธานที่พักสงฆ์ วัดป่าเนื้อนาบุญ บ้านกอกหวาน ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ได้แสดงธรรมเทศนาเกี่ยวกับการสอนเสพกามให้เกิดมรรคผล และภายในที่พักสงฆ์วัดป่าเนื้อนาบุญมีการฝึกปฏิบัติธรรมแบบสะเทินน้ำสะเทินบกดับวิญญาณ อ้างจะทำให้สำเร็จเป็นอริยะ เส้นผมม้วนเป็นวงกลม ร่างกายมีกลิ่นหอม หายจากโรคภัยไข้เจ็บและปัสสาวะออกมาเป็นธาตุ พร้อมอยากให้ผู้นำประเทศเข้ามาฝึกปฏิบัติ เมื่อสำเร็จเป็นอริยบุคคลแล้วจะทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่มองว่าเป็นคำสอนและแนวทางปฏิบัติที่ผิดเพี้ยน ต่อมาพระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัด ศรีสะเกษ (ธ.) ได้สั่งตั้งเจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบลเข้าไปตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของพระธรรมวินัย ตามที่ได้นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่พักสงฆ์วัดป่าเนื้อนาบุญ บ้านกอกหวาน ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ พบว่าวันนี้ยังคงมีบรรดาลูกศิษย์และชาวพุทธที่ศรัทธาพากันมาปฏิบัติธรรมเช่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีลูกศิษย์จากทั่วประเทศพากันมาพักภายในที่พักสงฆ์แห่งนี้เพื่อปฏิบัติธรรมตามคำสอนของหลวงตากรันยา ถาวรธัมโม ที่เทศนาสอนและฝึกให้ดำน้ำเป็นการสอนแบบสะเทินน้ำสะเทินบกดับวิญญาณ มีลูกศิษย์พากันฝึกดำน้ำในถังพลาสติกอย่างต่อเนื่อง โดยหลวงตากรันยาได้นั่งแสดงธรรมสอนลูกศิษย์ใต้ร่มไม้ภายในทางเดินเข้าไปสู่ลานธรรมที่มีการตกแต่งประดับประดาด้วยสีสันสีรุ้งอย่างสวยงาม
หลวงตากรันยา ถาวรธัมโม อายุ 59 ปี ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าเนื้อนาบุญ กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่า พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ.) ได้สั่งตั้งเจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบลเพื่อให้มาตรวจสอบการสอนตามแนวทางที่อาตมาภาพได้สั่งสอนลูกศิษย์เกี่ยวกับการเสพกามว่าผิดจากหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและผิดพระธรรมวินัยหรือไม่นั้น อาตมาภาพไม่ได้รู้สึกอย่างไร แต่เป็นเพราะว่าท่านเมตตาเราจึงได้สั่งให้เข้ามาตรวจสอบ ถ้าไม่เมตตาท่านคงไม่มาหรอก ก็ขออนุโมทนากับท่านด้วย
แต่หากว่าท่านจะมาฝึกด้วยก็จะเป็นการดี ซึ่งหากว่าเจ้าคณะอำเภอกับเจ้าคณะตำบลมีเกศาม้วนแล้วก็จะคุยกันรู้เรื่อง แต่หากว่าท่านเกศายังไม่ม้วน หากจะเข้ามาคุยกับอาตมาภาพก็จะต้องมีเหตุมีผล หากมีเหตุมีผลอาตมาก็จะรับฟัง แต่หากว่าไม่มีเหตุผลอาตมาก็จะเป็นอาตมาอยู่อย่างนี้ และยืนยันว่าจะสอนตามแนวทางนี้ต่อไป
“อาตมาภาพ คือศาสดาศีล 5 โพธิญาณคู่ ส่วนโพธิญาณเดี่ยวคือ ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 ศีล 311 ข้อสอนได้หมด โพธิญาณคู่ โพธิญาณเดี่ยวสอนได้หมด แล้วแต่ว่าใครจะสมัครใจเลือกศรัทธาสายไหน ถ้าศรัทธาทางสายโพธิญาณคู่ก็สอนได้หมด ถ้าสายโพธิญาณเดี่ยวสายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สอนได้หมดเช่นกัน” หลวงตากรันยากล่าวในตอนท้าย