เชียงใหม่ - นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ตั้งโต๊ะแจงประเด็นจัดงานเทศกาลสาดสีที่ถูกวิจารณ์สนั่นว่าการ์ดตกป้องกันโควิด-19 ยืนยันขออนุญาถูกต้องและมีมาตรการป้องกันเข้มงวด คนไม่สวมหน้ากากแค่นักแสดง ไม่มีถูกเนื้อต้องตัว ประกาศพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดหากมีคนร่วมงานติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ผู้ว่าฯ สั่งตรวจสอบภาพบันทึกการจัดงานอย่างละเอียด หากพบหย่อนยานเตรียมลงดาบตามกฎหมาย
ความคืบหน้ากรณีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดเทศกาลสาดสี (HOLI Festival) ที่เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองของประเทศอินเดีย ในงาน FINEDAY@Night Bazaar บริเวณไนท์บาซาร์ ย่านการค้ายามค่ำคืนชื่อดังกลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. 64 ซึ่งหลายคนแสดงความเป็นห่วงว่าเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเป็นการหย่อนยานมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโควิด-19 หรือไม่อย่างไรนั้น วันนี้ (28 มี.ค. 64) พลตำรวจตรี ปชา รัตนพันธ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประธานคณะกรรมการจัดงานเทศกาลสาดสี ชี้แจงว่า การจัดงานดังกล่าวในคืนวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา บริเวณเทอเรซ พาวิเลียน ย่านไนท์บาซาร์ ถนนคนเดินจังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19
ทั้งนี้ การจัดงานมีการขออนุญาต และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับเทศบาลนครเชียงใหม่อย่างเรียบร้อยถูกต้อง ขณะที่ในบริเวณจัดงานมีการคัดกรองสองชั้น มีเชือกกั้น และไม่ได้จัดกลางถนน มีการจัดพื้นที่เป็นสัดส่วน ไม่มีการถูกเนื้อต้องตัว และเป็นพื้นที่โล่ง โดยที่ในช่วงพิธีกรรมสาดสีนั้นมีขึ้นเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ถึง 20 นาที และมีคนร่วมงานประมาณ 50 คน ส่วนคนที่ไม่สวมหน้ากากเป็นนักแสดง และเป็นช่วงท้ายของงาน ซึ่งมีการนำภาพเผยแพร่และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเชียงใหม่การ์ดตกในการป้องกันโควิด-19 และตั้งคำถามว่าหากเกิดการระบาดอีกใครจะรับผิดชอบนั้น ทำให้คณะกรรมการฯ รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะเจตนาต้องการจะส่งเสริมการท่องเที่ยวและนำเสนอในเรื่องวัฒนธรรม ทั้งนี้แสดงความรับผิดชอบโดยพร้อมจะเยียวยาและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้หากมีผู้ใดที่เข้าร่วมงานดังกล่าวแล้วติดเชื้อโควิด-19
ขณะเดียวกันรายงานข่าวแจ้งว่า ด้าน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่าจากการตรวจสอบพบว่าการจัดงานดังกล่าวมีการขออนุญาตจากทางท้องถิ่นถูกต้อง และมีมาตรการตรวจวัดคัดกรอง รวมทั้งจำกัดคนร่วมกิจกรรมรอบละ 50 คน แต่เพื่อความสบายใจและความชัดเจนในการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ได้สั่งให้ทางสาธารณสุขจังหวัดเข้าไปตรวจสอบการจัดกิจกรรมในครั้งนี้แล้วเนื่องจากสังคมเป็นห่วงกังวล ทั้งนี้ ตรวจสอบภาพกิจกรรมทั้งหมดอย่างละเอียด หากพบว่ามีข้อบกพร่องหรือไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบจะต้องดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพื่อกำหนดรูปแบบแนวทางจัดกิจกรรมสงกรานต์ที่ชัดเจน ป้องกันข้อกังวลใจที่จะเกิดขึ้นแก่นักท่องเที่ยวและสังคม