ศูนย์ข่าวศรีราชา - “สนธยา” แจงนโยบายคลุมป้ายเลี่ยงภาษีเป็นหนทางช่วยเหลือ-เยียวยาผู้ประกอบการไม่สามารถเปิดกิจการได้จากพิษโควิด-19 ชี้หากไม่คลุมป้ายต้องเก็บภาษีตามกฎหมายกำหนด วอนผู้ประกอบการเข้าใจ
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับการนำผ้าใบคลุมปิดป้ายโฆษณาของสถานประกอบการที่ปิดดำเนินงานในโครงการวอล์กกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ จ.ชลบุรี จนมีการตัดพ้อว่านโยบายดังกล่าวของเมืองพัทยา ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา พร้อมขอให้เมืองพัทยาหาแนวทางช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด-19 ด้วยการยกเลิกการจัดเก็บภาษีป้ายนั้น
วันนี้ (26 มี.ค.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยถึงการจัดเก็บภาษีป้ายว่า เป็นกฎหมายที่เมืองพัทยาต้องปฏิบัติตาม ส่วนการกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเปิดบริการได้จากผลกระทบโควิด-19 ต้องนำผ้าใบมาปิดคุลมป้ายเป็นการชั่วคราวเพื่อไม่ต้องจ่ายภาษีป้ายก็เป็นไปตามพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ.2510
ที่ระบุว่าหากยังไม่ประกอบกิจการแต่ยังมีป้ายโฆษณาให้เห็นอยู่ เจ้าหน้าที่จะต้องทำการจัดเก็บภาษีตามหน้าที่ ดังนั้น เมืองพัทยาจึงขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการว่าหากหยุดประกอบกิจการขอให้นำผ้าใบมาคลุมปิดป้ายไว้ ซึ่งแม้จะดูเป็นภาพที่ไม่สวยงามแต่ก็สามารถช่วยให้ไม่ต้องแบกรับเรื่องการชำระภาษีได้
“เรื่องปัญหาภาษีป้ายและผลกระทบที่เกิดกับผู้ประกอบการนั้น เมืองพัทยาไม่ได้นิ่งนอนใจและจะเร่งเรื่องหารือกับส่วนกลางเพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมให้เหมือนการประกาศการยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่รัฐบาลได้ออกพระราชกฤษฎีกาในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 10% โดยขณะนี้ได้มีการหารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อขอผ่อนผันการจัดเก็บภาษีป้ายไปยังส่วนกลางแล้วว่าจะสามารถลดการจัดเก็บหรือยกเว้นได้ในแนวทางใดบ้าง”
นายสนธยา ยังขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ในขณะนี้ว่า ควรนำผ้าใบคลุมป้ายเป็นการชั่วคราวก่อน เพราะหากไม่ดำเนินการตามนั้น เมืองพัทยา จะต้องทำการจัดเก็บภาษีเพื่อไม่ให้เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะหาทางออกที่ชัดเจนได้
“ในส่วนพื้นที่ที่เมืองพัทยา เปิดให้ผู้ประกอบการเช่าทำกิน รวมทั้งตลาดสด ขณะนี้เมืองพัทยา ยังคงละเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการตามนโยบาย ลด ละ เว้น เพื่อช่วยเหลือประชาชน” นายสนธยา กล่าว
