ศูนย์ข่าวศรีราชา - ภาคธุรกิจเมืองพัทยา แนะยกเลิกจัดเก็บภาษีป้ายช่วยผู้ประกอบการจากผลกระทบโควิด-19 หลังลูกชายเจ้าของร้านอาหารดังโพสต์เฟซบุ๊กโจมตีนโยบายใช้ผ้าคลุมป้ายแทนการเสียภาษีอาจกระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยว ปลุกระแสเมืองร้างจนเกิดกระแสวิจารณ์หนัก
จากกรณีที่มีผู้เฟซบุ๊กชื่อ Bhanuwat Jittivuthikarn ได้โพสต์ข้อความตำหนิการทำงานของเมืองพัทยา ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และไม่ต้องการที่จะเสียภาษีป้ายให้หาผ้ามาคลุมป้ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.นี้ พร้อมระบุว่า การออกคำสั่งดังกล่าวเป็นการกระทำที่ใจดำและไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนทำธุรกิจในพื้นที่
และในบางช่วงยังมีการต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาอย่างรุนแรงว่า แนวคิดดังกล่าวถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองท่องเที่ยว
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นบุตรชายเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในโครงการวอล์กกิ้งสตรีทเมืองพัทยา ที่เคยประกาศปิดร้านจากพิษโควิด-19 และโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มีการคอร์รัปชันจนส่งผลกระทบในวงกว้าง และกลายเป็นข่าวฮืฮฮาในช่วงหลังปีใหม่ 2564 ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (22 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อ ได้โดยพบเพียง นางเปรมฤดี จิตติวุฒิการ เจ้าของกิจการร้านอาหาร “คิงส์ซีฟู้ด” ซึ่งเป็นมารดาของเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Bhanuwat Jittivuthikarn ที่บอกว่าการที่บุตรชายได้นำภาพและข้อความโพสต์ลงไปในโลกออนไลน์ถือเป็นเรื่องส่วนตัวในการแสดงออก
โดยเชื่อว่าบุตรชายน่าจะรู้สึกอึดอัดกับมาตรการที่เมืองพัทยากำหนด เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมองว่า การที่เมืองพัทยากำหนดให้ผู้ประกอบการนำผ้ามาคลุมป้ายไว้หากไม่ต้องการเสียภาษีป้ายน่าจะเป็นเจตนาดีที่และต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงที่ประสบภาวะวิกฤต
“แต่นโยบายนี้ไม่น่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวเท่าใดนัก เพราะหากผู้ประกอบการทำเช่นนี้เหมือนกันทุกรายก็จะทำให้ภาพของเมืองพัทยา โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างวอล์กกิ้งสตรีท กลายเป็นเหมือนเมืองร้าง สร้างความห่อเหี่ยว ถดถอย และภาพลักษณ์ในด้านลบให้แก่ผู้พบเห็นมากกว่า”
พยามมองให้มันเป็นศิลปะละกัน ทำกันเองไม่มีเงินไปจ้างใครทำ โดยส่วนตัวเห็นแล้วหดหู่มาก...โพสต์โดย Bhanuwat Jittivuthikarn เมื่อ วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2021
นางเปรมฤดี เจ้าของร้านอาหาร “คิงส์ซีฟู้ด” ยังให้ข้อแนะนำแก่เมืองพัทยา ว่า ทางที่ดีเมืองพัทยาควรจะออกมาตรการผ่อนปรนให้แก่ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเปิดกิจการแต่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าเช่า ค่าแรง และอื่นๆ ด้วยการยกเลิกการจัดเก็บภาษีป้ายจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
“กรณีนี้ได้รับการประสานจากกลุ่มธุรกิจหลายรายว่า จะเข้าพบนายกเมืองพัทยา เพื่อหาทางออกที่ชัดเจนเพราะทราบมาว่าขณะนี้ภาครัฐเองมีนโยบายที่จะเพิ่มการจัดเก็บค่าธรรมเนียมภาษีป้ายทั่วประเทศอีก 20% ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม และยังทราบอีกว่าในวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเดินทางมาประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา”
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไม่เพียงแต่จะทำให้ภาคธุรกิจจำนวนมากต้องปิดกิจการจากการไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น ผลกระทบจากการดำเนินโครงการวางระบบสายไฟฟ้าลงดินที่มีการขุดเจาะถนนตลอดแนวโครงการ ยังทำให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ ทั้งสถานบันเทิง บาร์เบียร์ ร้านจิวเวลรี ร้านอาหาร และอื่นๆ ที่เคยเฟื่องฟูและคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต้องพาปิดกิจการไปแล้วกว่า 70%