บุรีรัมย์ - แม่วัย 30 หัวร้อนบุกบีบคอเหวี่ยงเด็ก ป.1 ในโรงเรียนที่บุรีรัมย์จนล้มกระแทกพื้นหัวปูดโนต้องส่ง รพ.ดอดเข้ามอบตัว อ้างอารมณ์ชั่ววูบเพราะห่วงลูกที่ป่วยไม่ได้กินยา รู้สึกสำนึกผิด เบื้องต้นเข้าขอโทษเด็กและผู้ปกครองแล้ว ขณะ ตร.แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เตรียมประสานสหวิชาชีพสอบเด็กที่ถูกทำร้าย
วันนี้ (25 มี.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ นายคำเบ้า ทองสุทธิ อายุ 60 ปี ชาวบ้านบ้านวังน้ำใส ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.แคนดง ให้เอาผิด น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุประมาณ 30 ปี ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน หลังจากที่ น.ส.เอ ได้บุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย ด.ช.โตโต้ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ หลานชายของตัวเองซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนเดียวกัน ด้วยการใช้มือบีบลำคออย่างแรง และเหวี่ยงล้มกระแทกพื้น ขณะที่หลานยืนเล่นกับเพื่อนอยู่หน้าอาคารเรียน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. เมื่อวานนี้ (24 มี.ค. 64) กระทั่งเด็กที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งไปบอกครูในโรงเรียน ก่อนที่ครูจะพาน้องโตโต้ ที่ถูกผู้ปกครองทำร้ายส่งโรงพยาบาลสตึก เนื่องจากเด็กมีรอยแผลจากเล็บข่วนที่คอ และหัวปูดโน ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้น้องโตโต้ที่ถูกผู้ปกครองทำร้ายได้ออกจาก รพ.แล้ว นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ น.ส.เอ ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.2 ที่บุกเข้าไปทำร้าย ด.ช.โตโต้ นักเรียนชั้น ป.1 ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.แคนดงแล้ว โดยเบื้องต้นยอมรับสารภาพว่าได้ทำร้ายนักเรียนชั้น ป.1 ด้วยการบีบคอและเหวี่ยงจนล้มจริง สาเหตุเพราะเครียดที่สามีป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แถมลูกก็ป่วยเป็นโรคกระเพาะอีก จึงทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ทั้งเป็นห่วงลูกกลัวจะไม่ได้กินยาตามที่หมอสั่ง แต่พอทำแล้วรู้สึกผิด ซึ่งเบื้องต้นได้ไปขอโทษเด็กและผู้ปกครองตั้งแต่ตอนที่นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแล้ว แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย เสียใจต่อสิ่งที่ทำลงไป
ขณะที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” และปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากเข้ามามอบตัวเองไม่มีพฤติการณ์หลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หลังจากนี้จะประสานทีมสหวิชาชีพมาสอบปากคำเด็กผู้เสียหายเพื่อประกอบสำนวนคดี และรอผลตรวจจากแพทย์มาประกอบ
