บุรีรัมย์ - คุณตาวัย 60 บุกแจ้งความ สภ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ หลังหลาน 7 ขวบโดนแม่นักเรียน ป.2 บุกทำร้ายถึงในโรงเรียน ทั้งบีบคอ เหวี่ยงล้มกระแทกพื้นหัวปูดโนจนครูต้องนำส่ง รพ. เหตุแค่โมโหที่หลานเอายาแก้โรคกระเพาะรุ่นพี่ไปทิ้ง 1 เม็ด ตาเผยทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ด้านผอ.โรงเรียนเผยให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
วันนี้ (25 มี.ค.) นายคำเบ้า ทองสุทธิ อายุ 60 ปี ชาวบ้านวังน้ำใส ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ประยูร ฤทธิ์ตา สารวัตร (สอบสวน) สภ.แคนดง ให้เอาผิด น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุประมาณ 30 ปี ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน หลังจากที่ น.ส.เอได้บุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย ด.ช.โตโต้ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ หลานชายของตนซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนเดียวกัน ด้วยการใช้มือบีบลำคออย่างแรง และเหวี่ยงล้มกระแทกพื้น ขณะที่หลานยืนเล่นกับเพื่อนอยู่หน้าอาคารเรียน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) กระทั่งเด็กที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งไปบอกครูในโรงเรียน ก่อนที่ครูจะพาน้องโตโต้ ที่ถูกผู้ปกครองทำร้ายส่งโรงพยาบาลสตึกเนื่องจากเด็กมีรอยแผลจากเล็บข่วนที่คอ และศีรษะปูดโน
นายคำเบ้า ตาของน้องโตโต้ เล่าว่า ตนมีอาชีพรับซื้อของเก่า และขายไก่ย่างอยู่หน้าโรงเรียน เวลาประมาณ 07.00 น.เศษ เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) ได้มีเด็กนักเรียนวิ่งมาบอกว่าน้องถูกผู้ปกครองทำร้าย ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งไปดู ก็พบว่าคุณครูกำลังจะพาหลานส่งโรงพยาบาลสตึก จึงได้ขับรถตามไปดูที่โรงพยาบาล ซึ่งจากการสอบถามหลานเล่าให้ฟังว่า วันที่ 23 มี.ค. ก่อนวันเกิดเหตุ หลานได้แกล้งรุ่นพี่ซึ่งเป็นลูกชายของ น.ส.เอ ซึ่งเรียนอยู่ ป.2 โรงเรียนเดียวกัน ด้วยการเอายาแก้โรคกระเพาะที่ผู้ปกครองเอามาให้กินที่โรงเรียนไปทิ้งถังขยะ แต่หลานก็บอกว่าหลังจากเอาไปทิ้งก็เก็บไปล้างน้ำแล้วเอามาคืนให้แล้ว และเมื่อครูที่โรงเรียนทราบเรื่องได้ตักเตือนและทำโทษน้องไปแล้ว
แต่พอตกตอนเย็นเลิกเรียนรุ่นพี่ ป.2 ไปฟ้องแม่ ทำให้ น.ส.เอ แม่ของรุ่นพี่ ป.2 โกรธ พอตอนเช้าวันที่ 24 มี.ค.ก็บุกไปทำร้ายหลานที่โรงเรียนด้วยการบีบคอและเหวี่ยงล้ม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกโกรธเพราะทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่ยอมรับว่าต้นเหตุอาจจะเกิดจากที่หลานไปแกล้งรุ่นพี่ก่อน ก็น่าจะแค่ตักเตือนหรือถ้าจะทำโทษก็แค่ตีมือหรือขาก็พอ ไม่น่าจะถึงขั้นไปบีบคอหรือทำร้ายจนศีรษะปูดโนขนาดนี้ แต่ยังโชคดีที่หลานไม่เป็นอะไรมาก เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (25 มี.ค.) หมอก็อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ด้าน น.ส.กัญญาณัฐ ไกรจันทร์ คุณครูธุรการที่เป็นคนพาน้องโตโต้ส่งโรงพยาบาล เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุไม่ได้เห็นเหตุการณ์มีแต่นักเรียนด้วยกันที่เห็นเหตุการณ์ ก็มาเห็นตอนที่น้องนั่งร้องไห้อยู่แล้ว พอสอบถามจึงทราบว่าถูกผู้ปกครองทำร้าย จึงทำให้นักเรียนวิ่งไปบอกตากับยายน้องเพราะขายของที่หน้าโรงเรียน จากนั้นตนรีบพาน้องส่งโรงพยาบาลเพราะไม่รู้ว่าบาดเจ็บตรงไหนบ้าง แล้วพอมาสอบถามเรื่องราวถึงทราบต้นสายปลายเหตุเกิดจากที่น้องโตโต้ นักเรียนชั้น ป.1 ที่ถูกทำร้ายไปแกล้งรุ่นพี่ด้วยการเอายาโรคกระเพาะไปทิ้งถังขยะก่อนแต่ครูก็ได้เรียกมาตักเตือนและทำโทษว่าอย่าทำแบบนี้ ก็เข้าใจว่าเรื่องจบแล้ว กระทั่งรุ่งเช้าอีกวันผู้ปกครองบุกมาทำร้ายน้องโตโต้ในโรงเรียน ครูเองตกใจและได้พาน้องส่งโรงพยาบาลทันที แต่โชคดีไม่ได้เป็นอะไรแค่มีรอยข่วนที่คอ และศีรษะปูดโนเท่านั้น แต่น้องไม่ได้สลบตามที่เป็นข่าว
ขณะที่ นายวิทยา แพงวงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน บอกว่า ตามที่สอบถามคุณครูก็ทราบว่าเหตุการณ์เกิดจากน้อง ป.1 ไปแกล้งรุ่นพี่ ป.2 ด้วยการเอายาโรคกระเพาะไปทิ้งถังขยะ แต่พอครูทราบเรื่องก็ได้ตักเตือนน้องแล้ว ซึ่งน้องก็ได้เอายาของพี่ไปล้างน้ำแล้วเอามาคืนให้ แต่เนื่องจากยาเปื้อนแล้วครูจึงบอกว่ากินไม่ได้เดี๋ยวเลิกเรียนค่อยให้แม่เอาให้กินที่บ้าน กระทั่งเลิกเรียนพี่ ป.2 ไปฟ้องแม่ ซึ่งแม่ได้ไปที่บ้านของน้อง ป.1 และตาก็ขอโทษและยอมรับว่าหลานดื้อ หากจะให้ซื้อยาให้ใหม่ก็ยินดี ซึ่งก็เข้าใจว่าเรื่องจบแล้ว ก็ไม่คาดคิดว่าผู้ปกครองจะบุกเข้ามาทำร้ายน้อง ป.1 ถึงในโรงเรียนแบบนี้ ซึ่งเบื้องต้นได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ส่วนทางโรงเรียนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ จะดำเนินการตามขั้นตอนซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ปกครองของน้องเองด้วย ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย
ขณะที่พนักงานสอบสวนจะได้สอบปากคำเด็กผู้เสียหายตามขั้นตอน ก่อนจะเรียกผู้ปกครองที่ถูกกล่าวหามาสอบสวนตามกระบวนการต่อไป