บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.โนนสุวรรณ บุรีรัมย์ เร่งแกะรอยภาพกล้องวงจรปิดในหมู่บ้านและตามเส้นทางล่า 2 โจรสาวแสบป้ายยาฉกเงินและทองยายวัย 85 สูญร่วมแสน คาดเป็นคนนอกพื้นที่ขี่ จยย.ตระเวนเลือกเหยื่อเป็นผู้สูงอายุอยู่บ้านคนเดียว ลูกสาวชี้เป็นภัยสังคม เตือนอย่าปล่อยคนแก่อยู่บ้านคนเดียว
วันนี้ (24 มี.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่มีคนร้ายเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40-50 ปี จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาในหมู่บ้านดงพัฒนา ต.ดงอีจาน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ แล้วทำทีเข้าไปพูดคุยตีสนิทกับนางน้อย กระทะแก้ว อายุ 85 ปี ขณะกำลังนั่งแกะมะขามเปียกอยู่ที่บ้านคนเดียว พร้อมบอกจะขอซื้อมะขามเปียกจากยายเอาไปทำน้ำจิ้มลูกชิ้น แล้วคนหนึ่งออกอุบายปวดท้องขอเข้าห้องน้ำ แต่จังหวะที่ยายหยิบกุญแจให้คนร้ายไปเปิดประตูที่ล็อกไว้เพื่อเข้าห้องน้ำ ยายก็รู้สึกสะลึมสะลือเหมือนโดนป้ายยา ก่อนที่คนร้ายจะเข้าไปรื้อค้นฉกเอาเงินสดและทองคำรูปพรรณรวมมูลค่าร่วมแสนบาท ที่ยายซุกไว้ใต้ที่นอนแล้วขี่รถหลบหนีไป เหตุเกิดช่วงบ่ายของวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด พ.ต.อ.วิศิษฎ์ บัวสง่าวงศ์ ผู้กำกับการ สภ.โนนสุวรรณ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบลงพื้นที่หาข้อมูลเบาะแส และแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในหมู่บ้าน และตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนีเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีกล้องวงจรปิดในหมู่บ้านที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านออกไปท้ายหมู่บ้านได้ แต่รถไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน และมีการสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าด้วย จึงอาจยากต่อการติดตาม แต่หากใครมีข้อมูลเบาะแสก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายรายอื่นมาแจ้งความเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ขณะที่ นางหนู สุขใหญ่ อายุ 56 ปี ลูกสาวยาย บอกว่า วันเกิดเหตุตนไปทำกิจกรรมหยอดทรายอะเบตกำจัดลูกน้ำยุงลายในหมู่บ้าน พอมีคนโทร.ไปบอกว่ามีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ยายก็รีบกลับมาดู เห็นแม่มีอาการสะลึมสะลือ และปากด้านล่างบวมเป่งคล้ายกันคนโดนป้ายยา จึงได้พาแม่ไปแจ้งความและไปหาหมอที่โรงพยาบาล ซึ่งหมอฉีดยาแก้แพ้ให้กระทั่งตอนเย็นปากที่บวมก็ลดลง และอาการสะลึมสะลือก็หาย จึงเชื่อว่าแม่น่าจะโดนคนร้ายป้ายยา ซึ่งบุคคลทั้ง 2 ถือเป็นภัยสังคมเลือกเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุ จึงอยากฝากเตือนอย่าปล่อยผู้สูงอายุไว้บ้านคนเดียวอาจตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ และอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมคนร้ายทั้ง 2 รายมาดำเนินคดีก่อนจะไปก่อเหตุกับคนอื่น