“หมิว สิริลภัส” เดินทางมา สน.พหลโยธิน ดูภาพกล้องวงจรปิดในปั๊ม พบรถที่จอดข้างกันหน้าร้านกาแฟเป็นคนละคัน คลายข้อสงสัย ส.ต.ท.ไม่ได้ตามเข้าห้องน้ำ
จากกรณี น.ส.สิริลภัส กองตระการ หรือ หมิว ดารานางแบบ อดีตรองชนะเลิศอันดับ 2 มิสทีนไทยแลนด์ 2003 เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อพิจารณาดำเนินคดี ส.ต.ท.ศวัสกร หนูรี ผู้บังคับหมู่จราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ที่เข้าห้องน้ำหญิงในปั๊มน้ำมันย่านซอยรัชดาภิเษก 32 ในคืนวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่ ส.ต.ท.ศวัสกร ได้ขอโทษพร้อมอธิบายเรื่องราวทั้งหมด
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สน.พหลโยธิน น.ส.สิริลภัส กองตระการ หรือ หมิว เดินทางมาดูกล้องวงจรปิดที่เจ้าตัวยังมีความเคลือบแคลงสงสัย บริเวณที่จอดรถบริเวณหน้าร้านกาแฟภายในปั๊มน้ำมัน ว่า เป็นรถของ ส.ต.ท.ศวัสกร หนูรี คู่กรณีหรือไม่ ซึ่งหลังจากใช้เวลาดูกล้องและสอบปากคำเพิ่มเติมนาน 1 ชั่วโมง น.ส.สิริลภัส ออกมากล่าวว่า จากการดูกล้องแล้วพบว่า คันที่จอดอยู่ข้างรถของตนที่หน้าร้านกาแฟ ไม่ใช่รถของ ส.ต.ท.ศวัสกร แต่อย่างใด ระยะเวลาที่จอดเป็นคนละเวลากัน จอดคนละที่ จึงคลายข้อสงสัยว่าไม่ได้เป็นการตามมาเข้าห้องน้ำ
น.ส.สิริลภัส กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินคดีเรื่องการกระทำอนาจารหรือทำให้ตกใจนั้น จากการพูดคุยกับพนักงานสอบสวน พบว่า ส.ต.ท.ศวัสกร ไม่ได้ยกมือถือขึ้นมาถ่ายหรือใช้คำพูดให้ตกใจ หรือชะโงกหน้าข้ามห้องเข้ามาดู จึงไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้ แต่การดำเนินการทางวินัย ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ท.ศวัสกร ว่าจะดำเนินการอย่างไร
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวว่า การพิจารณาดำเนินคดีกับ ส.ต.ท.ศวัสกร ก็เป็นไปตามที่ดาราสาวออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ ว่า ผลการตรวจสอบไม่พบว่าเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาฐานคุกคาม หรือพยายามกระทำอนาจาร แต่เข้าข่ายเป็นเพียงความผิดฐานทำให้ตกใจ ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ ที่มีอัตราโทษปรับ 5,000-10,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งการจะแจ้งข้อหาดังกล่าว ยังต้องพิจารณาจากผลการสอบสวนพยานและหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่า ส.ต.ท.ศวัสกร มีเจตนากระทำผิดในข้อหานี้หรือไม่ หากไม่มีเจตนาก็ไม่สามารถเอาผิดในข้อหานี้ได้
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี ส.ต.ท.ศวัสกร ขับรถราชการเฉี่ยวชนรถประชาชนที่จอดอยู่ในปั๊มระหว่างการหลบหนี เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุไม่ใช่สถานที่สาธารณะ ถึงเข้าข่ายเป็นเพียงความผิดในคดีทางแพ่ง และจากการตรวจสอบจนถึงขณะนี้ ก็ไม่ปรากฏว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ แต่ทราบว่า ส.ต.ท.ศวัสกร พยายามติดตามหาตัวเจ้าทุกข์เพื่อชดใช้ค่าเสียหายแล้ว
สำหรับกรณีนำรถราชการไปใช้งานนั้น เบื้องต้นทราบว่า ต้นสังกัด ส.ต.ท.นายนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องการนำรถไปใช้งาน ว่า ได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ นำไปใช้ในภารกิจใด รวมถึงเรื่องการสอบสวนทางวินัยด้วย