“หมิว สิริลภัส” เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ก่อนพูดคุย ส.ต.ท.คู่กรณี แต่ยังไม่รับคำขอโทษ รอคดีชัดเจน เผยเป็นเพียงความผิดลหุโทษฐานทำให้ตกใจ
จากกรณี น.ส.สิริลภัส หรือ หมิว กองตระการ ดารานักแสดง โพสต์เฟซบุ๊กว่าถูกตำรวจยศ ส.ต.ท.ตำแหน่ง ผบ.หมู่จราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ตามเข้าไปห้องน้ำในปั๊มน้ำมันที่ริมถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร หลังเจ้าตัวได้เข้าไปทำธุระ ก่อนมีการวิพากษ์วิจารณ์จนเป็นวงกว้างเนื่องจากไปแจ้งความแล้วไม่มีความคืบหน้า
ล่าสุด วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.20 น. ที่ สน.พหลโยธิน น.ส.สิริลภัส หรือ หมิว กองตระการ ดารานักแสดง เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อพูดคุยกับตำรวจคู่กรณีพร้อมนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายห้องน้ำชั่วคราวภายในปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุช่วงกลางวันมามอบเป็นหลักฐาน ซึ่งพบว่า เป็นห้องน้ำแยกกันระหว่างห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิงอย่างชัดเจน โดย พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน ร่วมสอบปากคำเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง
น.ส.สิริลภัส กล่าวว่า หลังพูดคุยกับคู่กรณี เจ้าตัวบอกว่า ตัวเองปวดท้องหนักมาก และพักผ่อนน้อยจนเบลอ ไม่ทันได้ดูห้องน้ำ ไม่มีใครสั่งให้ติดตามมาแน่นอน แต่ตนเองติดโซเชียลมาก จึงเล่นโทรศัพท์มือถือ ยืนยันว่า ไม่เห็นคู่กรณียกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย แต่เห็นเขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากันพอดี ซึ่งคู่กรณีได้ขอโทษแล้ว แต่ตนยังไม่รับคำขอโทษหรือปักใจเชื่อ ต้องรอดูหลักฐานอื่นประกอบก่อน เช่น หากรถตำรวจคันที่มาจอดข้างกันเป็นรถตำรวจจริงๆ ก็คงจะมีเจตนาที่จะขับตามตนมาหรือไม่
น.ส.สิริลภัส กล่าวอีกว่า จะยังไม่ตัดสินว่าใครผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เบื้องต้นได้คุยกับตำรวจแล้วพบว่าไม่เข้าข่ายความผิดคดีอาญาฐานคุกคามหรืออนาจาร เป็นเพียงความผิดลหุโทษฐานทำให้ตกใจกลัว ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับคู่กรณี ก็เชื่อว่า เขาเองก็ไม่น่าจะเป็นคนตั้งใจที่จะทำอนาจารใดๆ เพียงแค่สงสัยว่าเหตุใด คนที่ปวดท้องหนักมาก แต่เมื่อเข้าห้องน้ำกลับไม่รีบทำธุระ เพราะถามคู่กรณีไปก็ตอบไม่ได้
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีมีข้าราชการตำรวจยศ "ส.ต.ท."
สน.ทุ่งมหาเมฆ ถูกกล่าวหาว่าแอบถ่ายคลิป น.ส.สิริลภัส กองตระการ หรือ หมิว
สิริลภัส ดาราสาว ในห้องน้ำหญิงปั้มน้ำมันปากซอยรัชดาภิเษก32
พื้นที่ สน.พหลโยธิน ว่า
หากพบว่ากระทำผิดจริงก็ต้องดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา
เพราะเป็นตำรวจต้องมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายดูแลประชาชน
แต่กลับกระทำผิดเสียเองมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายใครก็ช่วยไม่ได้