นครพนม - น้ำโขงลดต่อเนื่อง ต่ำสุดเหลือแค่เมตรกว่า กระทบลำน้ำสาขาสายหลัก ทั้งน้ำอูน-น้ำสงคราม ปริมาณน้ำต่ำทำนาปรังเริ่มขาดน้ำแล้วกว่า 300 ไร่ เจ้าของนาต้องตั้งเครื่องสูบน้ำยืดอายุข้าวนาปรัง แบกภาระต้นทุนเพิ่ม คาดแล้งนี้วิกฤตแน่ นาปรังกว่า 80 เปอร์เซ็นต์อาจเฉายืนต้นตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้สถานการณ์น้ำโขงอยู่ในห้วงวิกฤตในรอบ 3 ปี ระดับน้ำลดรวดเร็วต่อเนื่อง ล่าสุดระดับน้ำโขงเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 1-1.50 เมตร ส่งผลให้เกิดหาดทรายเป็นพื้นที่กว้างหลายจุด นอกจากนี้ยังกระทบลำน้ำสาขาสายหลัก ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ที่ไหลผ่าน อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม และ อ.ท่าอุเทน ก่อนถึงลำน้ำโขง มีปริมาณน้ำเก็บกักต่ำประมาณ 10 -20 เปอร์เซ็นต์ของความจุ บางจุดน้ำแห้งขอด
ปัญหาระดับน้ำโขงแห้งดังกล่าวเริ่มส่งผลกระทบต่อพื้นที่นาปรังของเกษตรกรในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอหลักที่มีการทำนาปรังในช่วงฤดูแล้งมากกว่า 30,000-40,000 ไร่ เนื่องจากในช่วงฤดูฝนเกิดปัญหาน้ำหลากไม่สามารถทำนาปีได้ เกษตรกรจึงหันมาทำนาปรังเป็นหลัก ทำให้ช่วงนี้ในพื้นที่ ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ประสบปัญหานาปรังขาดแคลนน้ำแล้วกว่า 300 ไร่ เสี่ยงแห้งตาย เกษตรกรต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำหาแหล่งน้ำสำรองยื้อชีวิตต้นข้าว ลดความเสียหาย
นายเจิมศักดิ์ ผงจำปา อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านดงน้อย หมู่ 5 ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม กล่าวยอมรับว่า การทำนาปรังในปีนี้ประสบปัญหาเรื่องน้ำค่อนข้างมาก เนื่องจากปีนี้แม่น้ำโขงลดระดับเร็ว ทำให้ลำน้ำสาขาสายหลัก ลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม มีปริมาณน้ำต่ำ บางจุดน้ำแห้งขอด กระทบพื้นที่ทำนาปรังที่กำลังเติบโต เหลือระยะเวลาเก็บเกี่ยวอีกประมาณ 1-2 เดือน
ทุกวันนี้ต้องเร่งหาแหล่งน้ำสำรอง และหาจุดที่มีน้ำเพียงพอ นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งสูบน้ำเข้าพื้นที่นาข้าว ปัจจุบันมีพื้นที่นาปรังที่ได้รับผลกระทบเสี่ยงเสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายสูบน้ำทุกวัน วันละประมาณ 1,000 บาท ที่สำคัญแหล่งน้ำที่จะสูบน้ำขึ้นมาใช้ก็หายาก ไม่เพียงพอ ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจให้ความช่วยเหลือวางแผนในการจุดคลองไส้ไก่เข้าไปใกล้พื้นที่นาข้าว วางแผนแก้ไขในระยะยาว
“นับวันยิ่งประสบปัญหาจากภัยแล้งมากขึ้นทุกปี หลังจากน้ำโขงแห้ง โดยในปีนี้สถานการณ์วิกฤตที่สุดเท่าที่เจอมา คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมารวมถึงไม่มีแหล่งน้ำสำรอง พื้นที่นาปรังจะเสียหายมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์” นายเจิมศักดิ์กล่าว