กาฬสินธุ์ - แม่ “น้องปอนด์” นักเรียนชั้น ม.3 แจ้งความดำเนินคดีคณะครูที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือจนทำให้ลูกชายจมน้ำเสียชีวิต เบื้องต้นเอาผิดข้อหาร่วมกันประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กรณีพบคณะครูตั้งวงดื่มเหล้ากันในสถานศึกษา ขณะที่ “ทนายรณณรงค์” ระบุเป็นความประมาท เตรียมแจ้งเอาผิดทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และวินัย
ความคืบหน้ากรณีนายทองนพเก้า สีทา หรือ “น้องปอนด์” อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนนาค้อวิทยาคม ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จมน้ำเสียชีวิตในหนองน้ำสาธารณะที่อยู่ติดกับโรงเรียน หลังจากร่วมกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยทางญาติติดใจในสาเหตุการณ์เสียชีวิตและคาดว่าลูกชายจมน้ำขณะเข้าฐาน “หนีสงคราม” ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กดำน้ำที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันช่วยเหลือ และได้ทำพิธีฌาปณกิจศพไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (20 มี.ค.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ให้นางบัวรื่น สีทา อายุ 48 ปี และนายสมภาร ภูศรีทอง อายุ 54 ปี แม่และพ่อเลี้ยงของนายทองนพเก้า สีทา หรือ “น้องปอนด์” อายุ 15 ปี เดินเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อัศวิน หงษ์โยธี พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีต่อครูผู้ดูแลควบคุมฐานและคณะครูโรงเรียนนาค้อวิทยาคมที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์กรณีพบครูตั้งวงดื่มสุรากันในสถานศึกษา
โดย พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก มอบหมายให้ พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยเม็ก ดูแลคดีอย่างใกล้ชิด
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางผู้ปกครองของเด็กและญาติได้ให้ตนเข้ามาเป็นทนายความดูแลคดีนี้ โดยจะมีการดำเนินคดีทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และทางวินัย เบื้องต้นวันนี้ได้ให้แม่ของเด็กเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก ให้ดำเนินคดีต่อครูผู้ดูแลควบคุมฐาน และคณะครูทุกคนที่เกี่ยวข้องในการกิจกรรมค่ายลูกเสือของโรงเรียนบ้านนาค้อวิทยาคม
“อย่างนี้ตอนนี้ก็แจ้งในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กรณีพบครูตั้งวงดื่มสุรากันในสถานศึกษา”
นายรณณรงค์กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวตนมองว่าเป็นการประมาท เพราะการจัดกิจกรรมให้เด็กลงน้ำที่มีความลึกนั้นไม่มีระบบเซฟตี้ และไม่มีมาตรการป้องกันเลย ไม่มีการเช็กชื่อเด็กที่หายไป หากคณะครูใช้ความระมัดระวัง ไม่ปล่อยปละละเลยเหตุการณ์ก็ไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ลักษณะการจัดฐานกิจกรรมลูกเสือซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนมีหน้าที่ควบคุมและเซ็นอนุมัติให้จัดกิจกรรมจะต้องถูกแจ้งความดำเนินคดีด้วย ส่วนเรื่องดำเนินการทางวินัยนั้นจะมีการประสานกับญาติเข้าติดตามเรื่องกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยให้ออกจากราชการ
อย่างไรก็ตาม หลังแจ้งความแล้วจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตนเตรียมที่จะลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อประสานงานกับผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขอพนักงานสอบสวนไปช่วยสอบสวน เพราะคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่จะต้องมีการสอบปากคำหลายคน
ขณะที่ พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยเม็ก เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกครูผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการจัดกิจกรรมค่ายลูกเสือ รวมทั้งผู้อำนวยการมาสอบปากคำ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมที่จะให้ปากคำและขอเลื่อน มีเพียงครูหญิงผู้ดูแลฐานกิจกรรมค่ายลูกเสือบัวตูมบัวบาน ซึ่งเป็นฐานที่อยู่ใกล้กันกับฐานหนีสงคราม 1 คนมาให้ปากคำ ส่วนผู้ปกครองของเด็กนั้นวันนี้เข้ามาแจ้งความเพื่อประสงค์ที่จะดำเนินคดีต่อคณะครู ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งตั้งแต่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ก่อนหน้านี้แล้ว