สุรินทร์ - ประชาชนผู้ใจบุญแห่บริจาคเงินช่วยหนุ่มป่วยโรคคล้าย “วินัย ไกรบุตร” ยอดทะลุกว่า 3 ล้าน แม่ขอบคุณผู้ใจบุญ พร้อมปิดบัญชีรับบริจาคเพราะเพียงพอรักษาลูกชายแล้ว ยันจะใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า หากหายป่วยจะให้ลูกบวชทดแทนคุณ
วันนี้ (18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีครอบครัว นายหงษ์ ทั่วเทพพิทักษ์ และ นางมาลี สมานมาก สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 163 ม.3 บ้านเจ้าคุณ ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ วอนสังคมช่วยเหลือครอบครัว เนื่องจาก นายทวีศักดิ์ สมานมาก อายุ 33 ปี ลูกชายคนโตป่วยเป็นโรคประหลาด มีตุ่มขึ้นอักเสบเป็นแผลพุพองทั่วร่างกาย นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์กว่า 1 เดือนแล้วอาการไม่ดีขึ้น แพทย์บอกว่าเป็นโรคคล้ายกับ นายวินัย ไกรบุตร ดารานักแสดงชื่อดัง และน่าเศร้าใจเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ลูกชายคนเล็กอายุ 20 ปี เพิ่งเรียนจบ ปวส.มีอาการป่วยเช่นนี้เหมือนกัน รักษาตัวอยู่ประมาณ 7 เดือนไม่หาย จนสุดท้ายตัดสินใจฆ่าตัวตายลาโลกไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่อยากให้ครอบครัวต้องลำบากรับภาระหาเงินมารักษา
จากนั้นอีก 4 เดือน ลูกชายคนโตที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัวก็มาเกิดอาการป่วยด้วยโรคเดียวกันอีก และผู้ป่วยมีลูกสาว 2 คน อายุ 6 ขวบ และ 3 ขวบ ที่ต้องเลี้ยงดู ส่วนภรรยาต้องออกจากงานเพื่อมาเฝ้าดูแลสามีที่ป่วย ไม่มีรายได้ และไม่มีเงินในการรักษาเนื่องจากค่ายาแพง จึงวอนผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือนั้น
ล่าสุดวันนี้ นางมาลี สมานมาก แม่ของ นายทวีศักดิ์ สมานมาก ผู้ป่วย ได้ปิดบัญชีรับบริจาคแล้ว เนื่องจากมียอดเงินบริจาคมากพอที่จะรักษาตัวลูกชายแล้ว โดยมียอดเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคเข้ามาจำนวนทั้งสิ้น 3,636,741 บาท (สามล้านหกแสนสามหมื่นหกพันเจ็ดร้อยสี่สิบเอ็ดบาท)
นางมาลีกล่าวว่า ตนและครอบครัวขอขอบพระคุณท่านผู้ใจบุญทุกท่านที่มีเมตตาบริจาคเงินช่วยเหลือลูกชายที่ป่วย ตอนนี้เงินน่าจะเพียงพอในการนำไปรักษาตัวลูกชายแล้ว ตนจึงขอปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อให้ผู้ใจบุญทั้งหลายได้ไปช่วยเหลือคนอื่นบ้าง หากลูกชายหายป่วยจะให้เขาบวชเพื่อทดแทนคุณท่าน ซึ่งเงินที่ทุกท่านช่วยบริจาคมาจำนวน 3 ล้านกว่าบาท ตนจะนำไปใช้ในการรักษาตัวลูกชายที่ป่วยให้คุ้มค่ากับเงินที่ท่านได้ให้การช่วยเหลือมา
ส่วนอาการของลูกชายตอนนี้ยังคงเดิมอยู่ กินอะไรยังไม่ค่อยได้ เขาบอกว่าเขาเหนื่อยมาก ส่วนแนวทางการรักษาต่อไปนั้นจะปรึกษากับแพทย์ที่รักษาว่ามีวิธีใดที่จะช่วยรักษาตัวลูกชายของตนให้หายป่วยได้บ้าง ตอนนี้ตนมีเงินจากผู้ใจบุญที่ให้การช่วยเหลือมากพอสมควรแล้ว ตรงนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์จะทำการรักษาต่อ หรือจะแนะนำอย่างไรต่อไป
