xs
xsm
sm
md
lg

ตรวจดีเอ็นเอ “ไอ้โอ๋” ข่มขืนแม่ชีวัย 79 ปี โยงไอ้หื่นข่มขืนฆ่าคนชราพื้นที่ภาค 7

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจ สภ.หนองเรือคุมตัวหนุ่มหื่น “ไอ้โอ๋” ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อเหตุข่มขืนแม่ชีอายุ 79 ปี คาที่พักในสวนปฏิบัติธรรม อ้างก่อนก่อเหตุดื่มเหล้าและกินยาบ้าทำให้มีอารมณ์ทางเพศ ขณะที่ตำรวจนครปฐมประสานขอให้ตรวจดีเอ็นเอเพราะสงสัยเกี่ยวพันคดีฆ่าข่มขืนผู้สูงอายุในพื้นที่ภาค 7 หรือไม่


จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญ นางสม (นามสมมติ) แม่ชี อายุ 79 ปี พิการขาขาดถูกคนร้ายบุกข่มขืนคาที่พักภายในสวนปฏิบัติธรรมบ้านหนองโน ม.8 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เมือช่วงเช้ามืดวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาผู้ต้องหาคือ “ไอ้โอ๋” หรือ นายอัจฉริยะ สีทา อายุ 24 ปี พื้นเพเป็นชาว ต.บางภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม ถูกจับกุมและตำรวจนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.หนองเรือ

แต่ไอ้โอ๋อาศัยช่วงตำรวจเผลอหลบหนีออกมาได้แล้วขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านขี่หลบหนีไป ล่าสุดวานนี้ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้คากระท่อมนาของชาวบ้าน ห่างจากสวนปฏิบัติธรรมบ้านหนองโน จุดก่อเหตุ 2 กม.


ล่าสุดวันนี้ (17 มี.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรหนองเรือ พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองเรือ ได้นำตัวนายอัจฉริยะ สีทา หรือนายโอ๋ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยได้เริ่มจากจุดแรกที่ได้มีการหลบหนีการควบคุมตัวของสิบเวร ก่อนที่จะวิ่งหนีข้ามถนนมะลิวัลย์ไปที่บริเวณหน้าตลาดเทศบาลตำบลหนองเรือ ก่อนที่จะชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน งกค 498 ขอนแก่น ขี่หลบหนีไป

จากนั้นได้นำตัวนายโอ๋ ผู้ต้องหาไปที่สวนปฏิบัติธรรมบ้านหนองโน ม.8 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น โดยไปที่กระท่อมภายในสวนปฏิบัติธรรมฯ ชี้จุดบริเวณด้านหลังที่ได้ปีนเข้าไปก่อนจะลงมือข่มขืนผู้เสียหาย และจุดสุดท้ายคือจุดที่ถูกจับกุมตัว ก่อนจะควบคุมตัวส่งศาลจังหวัดชุมแพเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองเรือ เปิดเผยว่า ตำรวจได้ออกหมายจับจำนวน 2 หมายจับ คือ หมายจับที่ จ.21/2564 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2564 ในข้อหา ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ และหมายจับที่ จ.22/2564 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2564 ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาตน ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้น หลังการสอบสวนก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามขั้นตอนต่อไป

นอกจากนั้นยังได้รับการประสานจากตำรวจภูธรนครปฐมให้ทำการตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องหาเพื่อเปรียบเทียบกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุข่มขืนฆ่าผู้สูงอายุในพื้นที่ภาค 7 ด้วย ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นนายโอ๋ให้การปฏิเสธว่าไม่เคยก่อเหตุในพื้นที่ภาค 7 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องหาเพื่อส่งตรวจแล้วเช่นกัน


ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การว่าที่หลบหนีจากการควบคุมตัวไปได้เพราะตำรวจเผลอนั้น พ.ต.อ.ภพกรบอกว่า หลังจากนี้จะได้มีการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่สิบเวรยามใหม่ โดยให้ตำรวจที่มีความเข้มแข็งของร่างกาย มีความคล่องแคล่วมากกว่า มาปฏิบัติหน้าที่ในจุดดังกล่าวแทน เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์หลบหนีของผู้ต้องหาเกิดขึ้นซ้ำอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น