เชียงใหม่ - สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) แจงละเอียดยิบกรณีชาวบ้านม่อนแจ่มปิดล้อม จนท.ป่าไม้ เหตุไม่พอใจถูกขวางสร้างอาคารใหญ่ที่อ้างทำเป็นที่อยู่อาศัย ยืนยันข้อเท็จจริงอาคารดังกล่าวสร้างสูง 2-3 ชั้นบนพื้นที่ลาดเอียง 30-45 องศาอยู่ระหว่างถูกสั่งระงับและกระบวนการช่วงแก้ไขปัญหาโรงแรมรีสอร์ต ย้ำชัดผู้แทนชุมชนรับรู้ขั้นตอนและทราบดีถึงข้อจำกัดการใช้พื้นที่
ความคืบหน้ากรณีวันนี้ (15 มี.ค. 64) ชาวบ้านในพื้นที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทำการปิดล้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 6 นายระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ตรวจตราพื้นที่ เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้สั่งการระงับไม่ไห้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่เป็นการก่ออิฐถือปูนขนาด 2-3 ชั้นในพื้นที่ม่อนแจ่มที่อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาโรงแรมและรีสอร์ต ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่ริมได้เข้าพูดคุยเจรจาจนกระทั่งมีการปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั้ง 6 นาย พร้อมกับมีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ได้แก่ 1. ขอให้ระงับการดำเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวน กรณีราษฎรสร้างที่อยู่อาศัยจำนวน 3 ราย, 2. ขอให้ราษฎรในพื้นที่สามารถสร้างที่อยู่อาศัยในพื้นที่ทำกินของตนเองได้, 3. ขอให้เร่งพิสูจน์สิทธิที่ดินตามมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541 และ 11 พฤษภาคม 2542 และ 4. ขอให้เร่งดำเนินการตามคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีม่อนแจ่ม
รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) กรมป่าไม้ ในฐานะส่วนราชการที่ดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ม่อนแจ่ม ชี้แจงประเด็นที่มีการเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้าน โดยแจ้งว่าตามข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ม่อนแจ่มให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชะลอการดำเนินคดีต่อราษฎรที่สร้างที่อยู่อาศัยจำนวน 3 ราย เพื่อนำกรณีการสร้างที่อยู่อาศัยดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะทำงานสนับสนุนศูนย์พัฒนาโครงการหลวงในพื้นที่อำเภอแม่ริมเพื่อพิจารณานั้น ข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีในกรณีที่ตรวจพบว่ามีการสร้างอาคารที่พักขนาดใหญ่จำนวน 3 ราย ที่ก่ออิฐถือปูนความสูง 3 ชั้นบนพื้นที่ลาดชันประมาณ 30-45 องศา และอยู่ระหว่างสั่งระงับการก่อสร้างเพื่อตรวจสอบข้อมูลจำนวน 3 ราย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าไประงับยับยั้งการก่อสร้างเพิ่มเติมอาคารขนาดใหญ่ดังกล่าว
ส่วนประเด็นตามข้อเรียกร้องกรณีที่ราษฎรจะสร้างที่อยู่อาศัย ให้เสนอเรื่องให้คณะทำงานสนับสนุนศูนย์พัฒนาโครงการหลวงในพื้นที่ซึ่งมีอำเภอแม่ริมเป็นประธานเพื่อพิจารณานั้น เรื่องนี้ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้มีการเสนอไว้แล้วในที่ประชุมที่มีส่วนราชการต่างๆ ร่วมประชุมเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 64 สำหรับกรณีการพิสูจน์สิทธิตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 และมติ ครม. 11 พ.ค. 42 ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 52 และเมื่อปี 62 เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามแผนงาน คทช. แต่ชาวบ้านม่อนแจ่มปฏิเสธไม่ให้เข้าพื้นที่ และหลังจากนี้จะมีแผนเข้าดำเนินการเมื่อชุมชนได้ข้อยุติให้เจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่ และประเด็นหลังจากผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีคำวินิจฉัยให้แก้ปัญหาพื้นที่ม่อนแจ่ม คณะทำงานสนับสนุนศูนย์พัฒนาโครงการหลวงในพื้นที่อำเภอแม่ริมได้มีการนำเรื่องคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินประชุมหารือไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 64 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างแผนแม่บทภายในระยะเวลา 120 วัน ตามคำวินิจฉัย
ทั้งนี้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ยืนยันว่าได้ชี้แจงและแจ้งให้ที่ประชุมส่วนราชการที่มีผู้แทนชุมชนร่วมประชุมทราบถึงข้อจำกัดการใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ลุ่มน้ำชั้น 1A มาโดยตลอดและการใช้พื้นที่ต้องไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ก่อให้เกิดมลพิษและสิ่งปฏิกูลที่ไม่มีแผนการจัดการรวมทั้งการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งจะได้นำเข้าหารือในที่ประชุมที่มีนายอำเภอแม่ริมเป็นประธาน และหัวหน้าโครงการหลวงเป็นเลขานุการต่อไป