พระนครศรีอยุธยา - สังเวยอีกรายพิษโควิด-19 เจ้าของร้านเสริมสวยเมืองกรุงเก่าเครียด นำเงินไปลงทุนแชร์สุดท้ายไม่ได้เงินคืน แถมเจอพิษโควิด-19 เล่นงานลูกค้าไม่มี ผูกคอตายทิ้งลูกสาววัย 8 ปีกำพร้าแม่
วันนี้ (11 มี.ค.) พ.ต.ท.ปริญญา กุลรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ผูกคอเสียชีวิตภายในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 63/51 ถนนราเมศวร ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ
ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์เปิดเป็นร้านเสริมสวย ชื่อเสริมสวยนก บริเวณชั้นล่างติดกับกำแพงห้องน้ำ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.เนาวรัตน์ จิตบำรุง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/5 ม.5 ต.แม่ลา อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี สวมใส่เสื้อคอกลมสีฟ้ากางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ใช้สายไฟปลั๊กสามตา ผูกกับราวเหล็กชั้นลอยแล้วผูกคอทิ้งตัวลงมาลักษณะท่ายืน เนื้อตัวซีดเขียว เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้ช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตลงมา ให้แพทย์ชันสูตร
เบื้องต้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไม่พบบาดแผลการต่อสู้ สอบถาม น.ส.รพีพรรณ พิมเพราะ อายุ 55 ปี ญาติผู้เสียชีวิตเผยด้วยน้ำตาว่า ตนเองเป็นเจ้าของอาคารพักอาศัยอยู่กับผู้เสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตมีลูกสาว 1 คน และเมื่อช่วงเช้ามืดตนเองได้นอนอยู่ชั้น 2 ของอาคาร ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นนอนอยู่ชั้นล่างกับลูกสาว และตนเองได้ยินเสียงลูกสาวของผู้เสียชีวิตร้องลั่นและร้องไห้ไม่หยุด จึงเดินลงมายืนอยู่บริเวณชั้นลอย จากนั้นได้ชะโงกหน้ามาดูว่าหลานสาวร้องทำไม แต่ก็ต้องแทบช็อกเมื่อเห็นร่างผู้เสียชีวิตใช้สายไฟผูกคอตัวเองกับราวเหล็กชั้นลอยแล้วห้อยอยู่ติดกับกำแพงห้องน้ำ ตนจึงรีบลงไปอุ้มลูกสาวของผู้เสียชีวิตและได้ปลอบใจ จากนั้นรีบโทรศัพท์แจ้งพ่อแม่และพี่ชายของผู้เสียชีวิตที่อยู่จังหวัดสิงห์บุรีให้เดินทางมา
ส่วนสาเหตุนั้น ช่วงหลังผู้ตายเป็นโรคซึมเศร้า และเคยบอกกับตนเองว่าได้นำเงินไปลงหุ้น และหวังเงินกำไรค่าตอบแทน จากที่ตนรู้เป็นแสน และประกอบกับช่วงหลังมีพิษโควิด-19 ทำให้ไม่ค่อยมีลูกค้ามาเสริมสวย ระยะหลังผู้ตายจะคอยบ่นกับตนเองว่าเครียด ท้อแท้ ไม่มีเงิน ค่าเทอมลูกสาวก็แพง จะต้องไปเสีย แต่ทางโรงเรียนเห็นใจบอกให้ผู้ตายมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่โรงเรียน โรงเรียนจะช่วยลดค่าเทอมให้ และวันนี้ผู้ตายจะต้องไปทำงานที่โรงเรียนเป็นวันแรก และผู้ตายยังโทรศัพท์ไปบ่นกับทางครอบครัวที่อยู่สิงห์บุรี ว่า ท้อแท้ไม่ ไหวแล้ว แต่ทุกคนช่วยกันปลอบใจให้กำลังใจ ไม่คิดว่าจะกล้าผูกคอฆ่าตัวตาย เนื่องจากผู้ตายเป็นคนที่รักลูกสาวมาก และเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เพิ่งจะเป็นวันเกิดของผู้ตาย
ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้สอบถามญาติของผู้เสียชีวิตแล้วไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยานำร่างผู้เสียชีวิตมอบแก่ญาติเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป