ราชบุรี - หนุ่มหึงโหด จ้วงแทงผู้ช่วยทันตแพทย์ดับคาคลินิก นั่งรอมอบตัวอยู่พร้อมกับอาวุธมีดพกยาวอยู่ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่นำตัวไปทำการสอบสวน
วันนี้ (9 มี.ค.) ร.ต.ท.ณัฐนนท์ เจียรวนานนท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต ที่คลินิกบ้านสิงห์ทันตกรรม คลินิก เลขที่ 4/1 หมู่ 5 ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รักษาราชการแทน ผกก.สภ.โพธาราม ได้รับทราบ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน สภ.โพธาราม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรี
ในที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 2 พบ นายราชศักดิ์ เชิญผึ้ง หรือแป๊ะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/3 หมู่ 5 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม นั่งรอมอบตัวอยู่พร้อมกับอาวุธมีดพกยาวประมาณ 10 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปสอบสวนที่ สภ.โพธาราม ใกล้กับพบ น.ส.แก้วมรกต เนตรเนียม หรือเกตุ อายุ 38 ปี ทำงานอยู่คลินิกที่เกิดเหตุ เป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนชั้น 2 ของห้อง ซึ่งผู้ตายอาศัยหลับนอน โดยตามร่างกายถูกอาวุธมีดแทงหลายแผล
จากการสอบสวน นางกรรณิการ์ เกตุราม อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นป้าของหนุ่มมือแทง ได้ให้ข้อมูลว่า หลานชายคือนายราชศักดิ์ ทำงานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่ง และได้รู้จักกับผู้ตายทางเฟซบุ๊ก ซึ่งทราบว่าเป็นแม่หม้ายมีลูกติด 3 คน จากนั้นได้คบหากันมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ โดยหลานชายได้พาผู้ตายมาฝากทำงานที่คลินิกเกิดเหตุ หน้าที่ผู้ช่วยทันตแพทย์ซึ่งเป็นคลินิกของญาติกัน จนช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาผู้ตายกับหลานชายมีปัญหากัน และแยกกันอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน โดยผู้ตายได้มาพักอาศัยอยู่ที่คลินิกเกิดเหตุบนชั้น 2 แต่หลานชายยังคงรักและทำใจไม่ได้ จึงตามตื๊อฝ่ายผู้ตายให้กลับมาอยู่ด้วยกัน
ที่ผ่านมา ผู้ตายหนีไปอยู่นครสวรรค์ประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วกลับมาทำงานและพักที่คลินิกแห่งนี้ได้ 1 เดือน จนวันนี้หลานชายได้มาตามง้อและเห็นผู้ตายกำลังคุยกับผู้ชายคนใหม่ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่มีการนัดหมายกับผู้ชายคนนั้นออกไปกินข้าวในวันนี้ โดยฝ่ายผู้ตายจงใจเปิดเสียงการพูดคุยสนทนาในโทรศัพท์ให้ฝ่ายหลานชายได้ยินจนเกิดความหึงหวงและพลั้งมือแทงฝ่ายหญิงเพราะความโมโหจนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหา นายราชศักดิ์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะ หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีต่อไป