ประจวบคีรีขันธ์ - ไฟไหมห้องแถว 3 หลังติดกัน ยายหอบหลานอายุ 2 ขวบ ขณะนั่งอยู่ในภายห้องนอนออกมานอกบ้านอย่างรวดเร็ว
วันนี้ (8 มี.ค.) ร.ต.อ.หญิงรัตนาภรณ์ ทองจีน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุไฟไหมห้องแถว 3 หลังติดกัน ไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ รถดับเพลิงจำนวน 3 คัน จากเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ อบต.เกาะหลัก อบต.ห้วยทราย ทหารอากาศกองบิน 5 และอาสาสมัครกู้ภัยสว่างประจวบธรรมสถาน กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดกว่า 20 นาย
โดยมีนายศราวุธ จิระพิทักษ์กุล นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายเดชา เรืองอ่อน หน.สนง.ปภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบต้นเพลิงลุกไหม้ที่บ้านเลขที่ 448/2 ซอยเพชรเกษม 1 ถ.เพชรเกษม ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ชุมชนเพชรเกษม โดยบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีห้องพักติดกันหลายห้อง อยู่ในซอยแคบห่างเข้าไปประมาณ 200 เมตร มีทางเข้าเพียงทางเดียว ทำให้รถดับเพลิงเข้าทีละคันต้องต่อแถวและเชื่อมท่อน้ำต่อกัน และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้องตัดกระแสไฟที่เสาหน้าบ้านเพื่อป้องกันไฟช็อต
พบต้นเพลิงมาจากห้องโถงภายในบ้านซึ่งมีเสื้อผ้าจำนวนมาก ส่งผลให้เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็วโหมกระหน่ำไปยังหน้าบ้านและห้องข้างๆ ทั้งฝั่งซ้ายและขวา เปลวไฟลุกขึ้นไปยังฝ้าเพดานถึงหลังคา ทำให้ นางพจนีย์ สุวรรณเมฆ อายุ 68 ปี หอบหลานวัย 2 ขวบ ขณะนั่งอยู่ในภายห้องนอนวิ่งหนีตายอย่างรวดเร็วออกมานอกบ้าน ขณะที่เปลวไฟลามไปยังห้องข้างเคียงทางด้านซ้ายอีก 3 หลังซึ่งไม่มีคนอยู่
เจ้าหน้าที่ต้องพังประตูหน้าบ้านเพื่อเข้าไปฉีดน้ำดับเพลิง ซึ่งแต่ละหลังมีราวแขวนเสื้อผ้าส่งผลให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และมีลูกสุนัขอายุไม่ถึง 1 เดือนอยู่ในตะกร้า เคราะห์ดีไม่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำออกมายังที่ปลอดภัย และเปลวเพลิงยังลามไปยังบ้านทางด้านขวามืออีก 1 ห้องทางฝ้าเพดาน ซึ่งมีสุนัขเลี้ยงไว้ เจ้าของบ้านจึงต้องรีบนำสุนัขออกมาจากบ้านมาใส่กรง ซึ่งอยู่ในอาการตื่นตระหนกขณะดับเพลิง บางจุดยังมีความร้อนระอุจากวัสดุติดไฟ เจ้าหน้าที่จึงต้องนำราวแขวนเสื้อผ้าออกมานอกบ้าน และถังบรรจุแก๊สหุงต้มออกมาให้ห่างจากความร้อนเพื่อป้องกันการระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาร่วมชั่วโมง จึงดับเพลิงได้สนิท
ส่วนสาเหตุไฟไหม้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีเชื้อปะทุเนื่องจากอากาศร้อน และติดผ้าซึ่งเป็นเชื้อไฟอย่างดี ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
