นครพนม - เคราะห์ซ้ำกรรมซัด พายุฝนหลงฤดูมาแค่ 30 นาที แต่พัดถล่มบ้านยายอายุ 79 ปี ดูแลลูกพิการตาบอดอีก 2 คน หลังคาปลิวว่อนเสียหายเกือบทั้งหลัง นายอำเภอศรีสงครามประสานกำลังทหารช่าง มทบ.210 นครพนม เข้าตรวจสอบให้ความช่วยเหลือซ่อมแซม แจ้งเตือนเฝ้าระวังยังมีความเสี่ยงหลายพื้นที่
วันนี้ (6 มี.ค.) นายปรัชญา เสริฐลือชา นายอำเภอศรีสงคราม จ.นครพนม ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำลังทหารช่างจากมณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนพังเสียหายตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบหลังพายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มนานเกือบชั่วโมงพบมีต้นไม้หักโค่นหลายจุด นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกพายุฝนพัดหลังคาพังเสียหายหนักจำนวน 1 หลัง ในพื้นที่บ้านยางงอย หมู่ที่ 3 ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม
ทราบชื่อเจ้าของบ้านคือ นางเป ดายังหยุด อายุ 79 ปี โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หลังคาบ้านพังเสียหายเกือบทั้งหลัง ที่สำคัญไม่เพียงบ้านเรือนพังเสียหาย ยังต้องมีภาระดูแลลูกชายกับลูกสาว รวม 2 คน ที่พิการตาบอดทั้งคู่มาแต่กำเนิด คือ นายพรชัย ดายังหยุด อายุ 44 ปี และนางยอดทิพย์ รัตนะ อายุ 28 ปี
ด้านเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้สามารถอาศัยอยู่ได้เช่นเดิม
นางเป ดายังหยุด เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า ตนอาศัยอยู่กับลูก 3 คน สามีเสียชีวิตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มีลูกชาย 1 คน ลูกสาว 2 คน แต่ลูกชายและลูกสาว 1 คนป่วยพิการตาบอดมาแต่เกิด อาศัยลูกสาวอีกคนเป็นหลัก คือ นางสุภาพร ดายังหยุด อายุ 38 ปี ที่ดูแลช่วยเหลือทำงานรับจ้างหาเลี้ยงครอบครัวตามสภาพ ช่วงเกิดฝนตกหนักมีลมพายุพัดประมาณ 30 นาที อยู่กัน 3 คนแม่ลูกเพราะอีกคนไปทำงาน จึงพากันหลบอยู่ชั้นล่างของบ้าน ได้ยินแต่เสียงพายุพัดหลังคาแต่ไม่กล้าออกไปดูเพราะกลัวจะได้รับอันตราย
ภายหลังพายุฝนสงบจึงออกมาดูพบหลังคาบ้านพังเสียหายหนัก ถ้าพายุนานกว่านี้คิดว่าบ้านคงพังทั้งหลังเพราะลมแรงมาก โชคดีที่เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือซึ่งลำพังครอบครัวคงไม่มีปัญญาซ่อมแซมบ้าน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนมยังได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ 12 อำเภอเฝ้าระวัง เนื่องจากในช่วงนี้ยังมีความเสี่ยงเกิดพายุฤดูร้อนซ้ำอีกเพราะอากาศแปรปรวน