บุรีรัมย์ - ป้าวัย 52 ชาว อ.ลำปลายมาศ บุรีรัมย์ถูกลักลอบสวมบัตร ปชช.กลายเป็นคนเถื่อนนาน 12 ปี ยิ้มออกหลังทางอำเภอฯ รับปากจะทำบัตร ปชช.คืนให้ภายใน 3 วัน เผยดีใจหากได้บัตรจะรีบไปลงทะเบียนขอรับสิทธิเงินเยียวยาเราชนะทันที จ่อตั้ง กก.สอบหาผู้กระทำผิดสวมบัตร พบอดีต ผญบ.ที่ตายแล้วเป็นคนรับรอง
วันนี้ (25 ก.พ.) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.ลำใย ธรรมดา อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับจ้างทั่วไปทั้งตัดอ้อย ถอนมันสำปะหลัง และทำความสะอาดบ้าน ได้นำบัตรประจำตัวประชาชนใบเดิมที่เคยทำเมื่อปี 2545 พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานยืนยันตัวตนว่าเป็นคนไทย ออกมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังเมื่อปี 2552 พบว่าตัวเองถูกลักลอบสวมบัตรประชาชนทำให้ได้รับความเดือดร้อนไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการของรัฐ ทั้งสิทธิรักษาพยาบาลตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และขาดโอกาสไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐทุกโครงการ ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน รวมถึงเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ซ้ำยังถูกชาวบ้านหรือคนที่รู้จักล้อเลียนหาว่าเป็นคนเถื่อนคนต่างด้าว ทั้งที่เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ และปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการกระทำของตนเอง ที่ผ่านมาเคยเดินเรื่องที่ที่ว่าการอำเภอลำปลายมาศ พาผู้ใหญ่บ้านไปรับรอง แต่ผ่านไปนาน 12 ปีไม่มีความคืบหน้า ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
ล่าสุดหลังจากนายนำชัย วงวิลาศ ปลัดอาวุโสอำเภอลำปลายมาศ เป็นตัวแทนมารับเรื่อง และสอบปากคำทั้งจากตัวผู้ร้องที่ถูกสวมบัตร ญาติใกล้ชิด และผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงตรวจสอบเอกสารทั้งบัตรประชาชนใบเดิม วุฒิการศึกษา ที่ผู้ร้องนำมายื่นประกอบเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง หลังจากทำเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้วคาดว่าจะสามารถทำบัตรประชาชนให้แก่ น.ส.ลำใย ได้ภายใน 3 วัน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และให้เจ้าของบัตรตัวจริงสามารถนำบัตรประชาชนไปใช้สิทธิต่างๆ ได้ตามปกติ
หลังจากนั้นจะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการขั้นตอน กรณีที่มีการลักลอบสวมบัตรประชาชน ว่ามีใครเกี่ยวข้องในการกระทำผิดบ้างก็จะมีการดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนต่อไป เบื้องต้นพบข้อมูลอดีตผู้ใหญ่บ้านซึ่งเสียชีวิตไปแล้วเป็นคนเซ็นรับรองให้ผู้ที่สวมบัตรฯ
ด้าน น.ส.ลำใย ธรรมดา และนายอารมณ์ มั่นคง สามี บอกว่ารู้สึกดีใจมากหลังจากปลัดอำเภอลำปลายมาศ รับปากว่าจะทำบัตรประชาชนให้อย่างเร่งด่วน จากที่ก่อนหน้านี้เดินเรื่องร้องมานานถึง 12 ปี ขอขอบคุณปลัดฯ และนายอำเภอที่เห็นปัญหาความทุกข์ของชาวบ้าน หากได้บัตรประชาชนคืนอันดับแรกจะรีบไปลงทะเบียนขอรับสิทธิเงินเยียวยาโครงการ “เราชนะ” ที่เลื่อนการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการออกไปเป็นวันที่ 5 มี.ค. 2564 ซึ่งหวังว่าจะได้รับเงินเยียวยาเหมือนกับคนอื่น แต่หากลงไม่ทันก็ยังดีใจเพราะจะได้มีบัตรฯ ไว้ใช้สิทธิโครงการอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะสิทธิรักษาพยาบาลโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะหากไม่มีบัตรไปยื่นจะต้องเสียเงินเองซึ่งต้องลำบาก เพราะลำพังเงินจะกินอยู่ยังแทบจะไม่พออยู่แล้ว
