เชียงใหม่ - แม่บ้านปั๊มน้ำมันผูกคอตายคาต้นลำไย หลังเครียดหนักถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบตามทวงหนี้ดอกเบี้ยโหดทุกวัน ล่าสุดบุกขู่ถึงประตูบ้านจี้ให้หาเงินมาจ่ายพร้อมไล่ไปตาย จนทนแรงกดดันไม่ไหวตัดสินใจหาทางออกด้วยการจบชีวิต
ช่วงบ่ายวันนี้ (22 ก.พ. 64) พนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 6 บ้านกู่แดง ต.หนองแฝก อ.สารภี จึงรุดไปสอบสวนพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.สารภี กู้ชีพฯ ทต.หนองแฝก พบว่าที่ต้นลำไยหลังบ้านมีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งใช้สายไฟผูกคอตัวเองกับกิ่งลำไยและมีเก้าอี้พลาสติกล้มอยู่ ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางกัลยาณี หรือหน่อย ประนอกดง อายุ 48 ปี เป็นเจ้าของบ้าน จึงได้ปลดศพลงมาตรวจตามร่างกายไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยของการถูกทำร้าย
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่านางกัลยาณี หรือหน่อย ทำงานเป็นแม่บ้านที่ปั๊มน้ำมันย่านบ้านหนองผึ้ง ต.หนองผึ้ง อ.สารภี ได้กู้เงินจากแก๊งเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 20 ในวงเงิน 6,000 บาท เริ่มต้นถูกหักล่วงหน้า 1 วัน 300 บาท และค่าเอกสาร 300 บาท จะได้รับเงินจริงๆ เพียง 5,400 บาท ส่งวันละ 300 บาทเป็นเวลา 24 วัน เมื่อไม่มีเงินส่งทำให้ต้องกู้เพิ่มจากแก๊งเงินกู้นอกระบบอื่นๆ มาจ่าย รวมแล้ว 4-5 ราย จนสุดท้ายเกิดหนี้สะสมและไม่สามารถจ่ายได้เพราะต้องจ่ายหนี้มากถึงวันละไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท ขณะที่มีรายได้เพียงวันละ 350 บาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีแก๊งทวงหนี้หมุนเวียนกันเข้าออกบ้านของนางกัลยาณีตลอดทุกวันทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อทวงหนี้ โดยล่าสุดช่วงเช้าวันนี้เพื่อนบ้านบอกว่าเห็นแก๊งเงินกู้นอกระบบรายหนึ่งเป็นผู้ชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาทวงหนี้ที่บ้านของนางกัลยาณี ซึ่งนางกัลยาณีบอกว่าไม่มีเงินให้ ก็ถูกทวงหนี้ข่มขู่ต่างๆ นานา พร้อมทั้งบอกด้วยว่าถ้าหากหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ก็ให้ไปผูกคอตายเสีย ก่อนที่จะทิ้งนามบัตรเชิญชวนกู้เงินนอกระบบไว้และออกไป
จากนั้นเพื่อนบ้านสังเกตเห็นว่านางกัลยาณีเงียบหายไปจึงลองไปเรียกดูที่บ้าน แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินดูกระทั่งพบว่าผูกคอตายที่ต้นลำไยหลังบ้าน ซึ่งเชื่อว่าการที่นางกัลยาณีตัดสินใจทำเช่นนี้เป็นเพราะถูกกดดันอย่างหนักจากแก๊งเงินกู้นอกระบบที่ติดตามทวงหนี้จนทนไม่ไหวและฆ่าตัวตายในที่สุด ทั้งนี้ชาวบ้านบอกด้วยว่าในพื้นที่มีแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบหลายราย โดยจะนำนามบัตรหรือใบปลิวเชิญชวนให้ใช้บริการมาวางติดหรือวางไว้ตามบ้านเรือนและจุดต่างๆ ซึ่งอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบกวาดล้างด้วย เนื่องจากพบว่ามักจะมีพฤติกรรมหรือแนวโน้มใช้ความรุนแรงข่มขู่ลูกหนี้ จนเป็นที่มาของความสูญเสียในครั้งนี้