xs
xsm
sm
md
lg

แลก 800 บาท! ชาวชัยภูมิเหยื่อถูกหลอกสวมสิทธิ “เราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง” กว่า 700 คนทยอยพบ ตร. ยันไม่รู้เห็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชัยภูมิ - ชาวบ้านชัยภูมิเหยื่อถูกหลอกสวมสิทธิเราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิกว่า 700 คน ทยอยเข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน ยันไม่มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการสวมสิทธิ เพียงแค่อยากได้เงิน 800 บาท จึงถูกหลอกเอาบัตรประชาชนไปใช้สวมสิทธิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายวันนี้ (22 ก.พ.) ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ มีชาวบ้านในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิได้ทยอยกันมารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ หลังจากที่เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่ผ่านมาตำรวจชุดกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป.นำกำลังบุกเข้าจับกุมผู้ประกอบการโรงแรม และร้านค้าที่มีพฤติกรรมทุจริตในโครงการเราเที่ยวทั่วไทย และโครงการคนละครึ่ง ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ


หลังสืบทราบว่ามีผู้ทุจริตในลักษณะดังกล่าวสูงกว่า 9,000 ราย และสามารถเข้าจับกุมได้รวม 36 ราย ซึ่งมีการตรวจสอบพบว่ามีโรงแรมกระทำความผิดในลักษณะทำการเปิดแอปฯ ถุงเงินเพื่อให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิเข้าไปใช้ในแอปฯ เป๋าตังเพื่อนำมาใช้กับแอปฯ ถุงเงินของธุรกิจโรงแรมของตัวเองในพื้นที่ อ.แก้งคร้อ และ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ที่อ้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นแหล่งรองรับคูปองหรือส่วนลดดังกล่าว 2 แห่ง

ทั้งยังพบว่ามีชาวบ้านหลงเชื่อเข้าร่วมกับขบวนการดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งได้มีการส่งรายชื่อให้แก่ตำรวจแต่ละพื้นที่เพื่อเรียกชาวบ้านที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมในวันนี้ ซึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองชัยภูมิพบว่ามีชาวบ้านถูกหลอกเอาบัตรประชาชนไปใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง เพื่อแลกกับเงิน 800 บาท เบื้องต้นรวมจำนวนมากกว่า 780 คน


ด้านบรรยากาศการเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิในครั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.พ.) ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุทั้งหญิง และชายชาวชุมชนบ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.ในเมือง จ.ชัยภูมิ มากกว่า 100 คน ได้ทยอยเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชับภูมิในวันนี้ ซึ่งต่างบอกว่ามีคนรู้จักกันในหมู่บ้านได้มาหลอกเอาบัตรประจำตัวประชาชนโดยถ่ายสำเนาบัตรไปเพื่อแลกกับการให้เงินจำนวน 800 บาท

นางสายัญ วงษาเนาว์ อายุ 69 ปี ชาวบ้านขี้เหล็กใหญ่ หมู่ 9 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ หนึ่งในชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อครั้งนี้ บอกว่า มีคนที่รู้จักกันในหมู่บ้านได้มาชักชวนหากอยากได้เงิน 800 บาทจากรัฐบาล ให้ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนหน้าหลังไปแลกกับเงิน 800 บาท โดยไม่รู้ว่าเขาจะไปทำการทุจริตโครงการดังกล่าวเลย ด้วยความอยากได้เงินจึงมอบสำเนาบัตรประชาชนให้ไปเพื่อแลกกับเงิน 800 บาท มารู้ตัวว่าถูกหลอกเอาบัตรประชาชนไปใช้สวมสิทธิเราเที่ยวด้วยกันเมื่อตำรวจได้แจ้งให้มารายงานตัว จึงเดินทางมาพร้อมเพื่อนบ้านในหมู่บ้านที่ถูกหลอกด้วยกันอีกจำนวนมาก

ทางด้าน นางสุวรรณ ดิเรกศรี อายุ 76 ปี ที่เปิดร้านขายของชำในหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ บอกว่า ตนเป็นอีกผู้หนึ่งที่ถูกหลอกเอาสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อแลกกับเงิน 800 บาทไปลงทะเบียนคนละครึ่งด้วยเช่นกัน และยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการทุจริตโครงการของรัฐในครั้งนี้เลย








กำลังโหลดความคิดเห็น