เชียงใหม่ - นักร้องดัง “เดวิด อินธี” โพสต์ “#แชร์ให้มันรู้กูก็ลำบาก เตือนภัยโดนหนุ่มเชียงใหม่ซ้ำเติมความเดือดร้อนช่วงโควิด-19 อ้างตัวเป็นสื่อมวลชนว่าจ้างเล่นคอนเสิร์ตเสร็จตั้งแต่ ธ.ค. 63 จนถึงตอนนี้ผ่านไปเกือบ 3 เดือนยังเงียบหาย ส่อเบี้ยวไม่ยอมจ่าย 5 หมื่น แถมมีศิลปินอีกหลายรายตกเป็นผู้เสียหายร่วมชะตากรรมเดียวกัน เตรียมขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่ให้มีที่ยืนในสังคม ป้องกันคนตกเป็นเหยื่อซ้ำ
รายงานข่าวแจ้งว่า เพจเฟซบุ๊ก “เดวิด อินธี” ของนักร้องลูกครึ่งไทย-อเมริกันชื่อดัง จากผลงานเพลงอัลบั้ม “ฝรั่งบนหลังควาย” และเพลง “ตั้งใจมาหลอก” ได้โพสต์ข้อความเชิงตัดพ้อ พร้อมทั้งเตือนภัยกรณีที่ถูกผู้ชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นสื่อมวลชนจ้างให้ไปเล่นคอนเสิร์ต แต่ปรากฏว่าหลังเสร็จงานแล้วกลับไม่ยอมจ่ายค่าจ้างตามที่ตกลงและเงียบหายขาดการติดต่อ ซึ่งมีศิลปินอีกหลายรายที่ถูกจ้างให้ไปเล่นงานเดียวกันและยังไม่ได้ค่าจ้างเช่นกัน
โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “#แชร์ให้มันรู้กูก็ลำบาก #เตือนเพื่อนๆศิลปิน นาย ม.น ที่ชอบหางานให้นักร้อง อ้างตัวว่าเป็นสื่อมวลชน ติดต่อจ้างงานเสร็จ ไม่จ่ายเงิน สถานการณ์แบบนี้ยังหลอกกัน #โดนไปเกือบแสน หลังเล่นคอนเสิร์ตเสร็จมานาน ผลัดวันไปเรื่อย เงินไม่ได้ แถมหายเงียบ ไม่ติดต่อ..มันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ผมเท่านั้น มีศิลปินอีกหลายท่าน ที่ถูกนายคนนี้เบี้ยว ไม่ยอมจ่ายค่างาน #ที่ผมมาพูดไม่ใช่เรื่องเงินแต่เพราะผมไม่อยากให้คนแบบนี้มีโอกาสทำร้ายใครได้อีก #ฝากเตือนทุกคนด้วยครับ #อย่าให้คนแบบนี้มีจุดยืนในสังคม #เจอกันตอนต่อไป” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีแฟนเพลงและคนในวงการเพลงจำนวนมากต่างพากันเข้าไปแสดงความเห็นพร้อมทั้งให้กำลังใจนักร้องรายนี้
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุด “เดวิด อินธี” ได้เดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามหาตัวคู่กรณีที่ว่าจ้างให้ไปเล่นคอนเสิร์ตแต่ผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายค่าจ้างตามที่ตกลง เนื่องจากไม่สามารถติดต่อได้ และตามข้อมูลทราบว่าผู้ว่าจ้างมีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จึงตัดสินใจมาตามหาด้วยตัวเองเพื่อพบพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบตัว ทำให้เตรียมเดินทางต่อไปที่อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับว่าจ้างให้ไปแสดงคอนเสิร์ต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อคู่กรณี โดย “เดวิด อินธี” เปิดเผยว่า ช่วงปลายปี 2563 ได้รับการติดต่อจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “มาโนชญ์ วงศ์จีโน” ที่อ้างตัวว่าเป็นสื่อมวลชน ทักมาทางข้อความในเฟซบุ๊กว่าให้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ตำบลร่องเคาะ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง เบื้องต้นตกลงค่าจ้างตัวเองพร้อมทีมงานนักดนตรีกันที่ 70,000 บาท แต่ไม่มีการทำสัญญาใดๆ จากนั้นทางฝ่ายผู้ว่าจ้างได้เงียบหายไปจนใกล้จะถึงวันงาน ตัวเองจึงได้สอบถามไปและขอให้โอนมัดจำก่อนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ก็ไม่มีการโอนจนตัวเองคิดว่าจะไม่ไปเล่นงานนี้แล้ว กระทั่งก่อนถึงวันงานเพียงวันเดียวทางฝ่ายผู้ว่าจ้างได้โอนเงินให้ 10,000 บาท ตัวเองพร้อมทีมงานจึงเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตให้ เพราะกลัวว่าคนในพื้นที่จะคิดว่าเบี้ยวงาน
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงสถานที่จัดงานได้พบกับผู้ว่าจ้าง ที่ขอต่อรองค่าจ้างลดลงจากที่เคยตกลงกันไว้ โดยอ้างว่างานที่จัดเป็นงานการกุศลเพื่อระดมทุนหลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้คนในพื้นที่นำไปทำสาธารณประโยชน์ ตัวเองจึงลดค่าจ้างเหลือ 60,000 บาท และขอให้ทำสัญญาจ้างงานกันตรงหลังเวทีที่จะขึ้นเล่นคอนเสิร์ตเลยในวันที่ 6 ธ.ค. 63 ซึ่งทางผู้ว่าจ้างลงชื่อในสัญญาว่านายมาโนชญ์ วงศ์จีโน จากนั้นเมื่อเล่นคอนเสิร์ตเสร็จแล้ว ทางนายมาโนชญ์ก็ยังไม่จ่ายค่าจ้างให้ อ้างว่าจะโอนให้หลังจัดงานเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ ด้วยความเชื่อใจเพราะเห็นว่าเป็นสื่อมวลชน จึงยินยอมและเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าจากนั้นนายมาโนชญ์กลับนิ่งเฉยและไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างที่คงค้างอีก 50,000 บาท แม้ว่าจะทวงถามไปหลายครั้งตั้งแต่เดือนธันวาคม 63 โดยอ้างสารพัดเหตุผล และขาดการติดต่อไปในที่สุด จนถึงปัจจุบันเดือนกุมภาพันธ์ 64 เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนแล้ว
จากการตรวจสอบข้อมูลทำให้ทราบด้วยว่า นอกจากตัวเองแล้วยังมีศิลปินที่มีชื่อทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่นอีกหลายรายที่นายมาโนชญ์ว่าจ้างให้ไปเล่นคอนเสิร์ตในงานเดียวกับตัวเองแต่คนละวัน ถูกกระทำในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ และได้รับความเสียหายจากการไม่ได้รับค่าจ้าง ทำให้ตัวเองจึงจำเป็นต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมอาชีพ ด้วยการโพสต์เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยและจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายมาโนชญ์จนถึงที่สุด
นอกจากนี้ “เดวิด อินธี” บอกว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผู้คนทุกสาขาอาชีพต่างได้รับความเดือดร้อนยากลำบากกันหมดในเรื่องการทำมาหากินและขาดรายได้ รวมทั้งศิลปินนักร้องด้วย โดยการกระทำของนายมาโนชญ์นั้นถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับเป็นการเหยียบย่ำซ้ำเติมความเดือดร้อนยากลำบากของศิลปินนักร้องที่มีมากอยู่แล้วเพิ่มขึ้นไปอีก อย่างเช่นตัวเองที่รับงานนี้ นอกจากจะไม่ได้รับเงินค่าจ้างแล้วยังต้องควักเงินส่วนตัวจ่ายค่าจ้างให้กับทีมงานไปก่อน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่มีงานและต้องอาศัยใช้เงินเก็บ ซึ่งศิลปินรายอื่นที่โดนกระทำก็น่าจะประสบชะตากรรมเช่นเดียวกัน ดังนั้นตัวเองจึงต้องเปิดโปงเตือนภัยและตั้งใจว่าจะต้องดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุรายนี้จนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นได้อีก