นครราชสีมา - มอบเงินเยียวยาเหยื่อกราดยิงเพิ่มอีก 12 ราย จากเงินกองทุนผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่ตลอด 1 ปี มีทายาทผู้เคราะห์ร้ายที่จังหวัดนครราชสีมา ช่วยเหลือได้รับบรรจุเข้ารับราชการแล้ว 34 ราย
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่ห้องประชุมสำนักงานท้องถิ่นจังหวัด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงและผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี
การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 กรณีบาดเจ็บสาหัส 3 รายๆ ละ 2000,000 บาท กรณีบาดเจ็บไม่สาหัส 9 รายๆ ละ 1000,000 บาท และกรณีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 12 รายๆ ละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,560,000 บาท รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย เป็นค่าจัดการศพ 1 ราย เงินทุนยังชีพแก่ครอบครัวผู้ 2 เสียชีวิต ค่าวัสดุซ่อมแซมบ้านเรือน เสียหายทั้งหลัง และค่าเครื่องอุปโภค และเครื่องใช้อื่นๆ ที่จำเป็นแก่ครอบครัว กรณีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง เป็นเงิน 315,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,875,000 บาท
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาขึ้น เมื่อวันที่ 8-9 กุมภพันธ์ 2563 ทำให้มีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก และเกิดเหตุอัคคีภัย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 ณ บ้านเลขที่ 197 หมู่ที่ 2 ต.หนองกระทุ่ม อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทรัพย์สินเสียหายทั้งหลัง 1 หลังนั้น
จังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ผู้ประสบภัยยังเดือดร้อนจำนวนมาก จึงขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งครั้งที่ 1 คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้ความช่วยเหลือกรณีเสียชีวิต 27 ราย (ไม่รวมผู้ก่อเหตุและคู่กรณี) รายละ 1,000,000 บาท กรณีบาดเจ็บสาหัส 23 ราย (ไม่รวมผู้ก่อเหตุและคู่กรณี) รายละ 200,000 บาท และกรณีเจ็บไม่สาหัส 57 ราย รายละ 100,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 37,360,000 บาท
ประชาชนที่รับมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาครั้งนี้เป็นกลุ่มที่เพิ่มเติมและทางจังหวัดได้เสนอขอเงินช่วยเหลือ เนื่องจากช่วงเวลาที่เกิดเหตุไม่มีข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มนี้ เพราะบางรายรักษาหายก็เดินทางออกนอกพื้นที่กลับภูมิลำเนาทันที เมื่อทางจังหวัดทราบข้อมูลว่ามีกลุ่มบุคคลที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจึงประสานขอเงินกองทุนช่วยเหลือจากสำนักนายกรัฐมนตรีทันทีเพื่อเยียวยา กลุ่มนี้น่าจะเป็นสุดท้ายที่ได้รับการช่วยเหลือ หลังจากนี้ทางจังหวัดจะติดตามผู้ที่ยังรักษาไม่หาย รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือทายาทผู้ประสบเหตุต่อไป
ที่ผ่านมา การช่วยเหลือทายาทนั้นได้ช่วยเหลือให้บรรจุเข้ารับราชการทหารแล้ว 25 ราย ตำรวจ 5 ราย การรถไฟเป็นลูกจ้างชั่วคราว 1 ราย แต่รอดำเนินต่อเพื่อให้บรรจุเป็นลูกจ้างประจำ สำหรับทางการศึกษาได้มีการเสนอให้พิจารณาบรรจุให้ความช่วยเหลือแล้วอย่างน้อย 3 ราย