ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชทำบุญใหญ่อุทิศส่วนกุศล 31 ศพ เหยื่อ “จ่าคลั่ง” กราดยิงโคราชครบรอบ 1 ปี ด้าน “น้องเนย” หนุ่มบิ๊กไบค์พลเมืองดีทุพพลภาพ ได้รับเงินชดเชยเพิ่ม 5 แสน และเงินดำรงชีพตลอดชีวิตเดือนละ 7,500 บาท พร้อมยื่นขอ ทภ.2 รับน้องชายเป็นทหาร
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ศาลาการเปรียญวัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา พล.ต.สวราชย์ แสงผล รองแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย นายกรกต ธำรงค์วงษ์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์ 10 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงทั้ง 31 ราย โดยมีพระเทพสีมาพร เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์นำสวดมนต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต พร้อมถวายภัตตาหารเช้า กรวดน้ำ
โดยมีญาติ ครอบครัว เพื่อนของผู้เสียชีวิต และประชานชนเข้าร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศล และไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน ภายในงานญาติผู้เสียชีวิตได้จัดทำโรงทานแจกจ่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปเพื่อเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีนักเรียนโรงเรียนบุญวัฒนาส่วนหนึ่งได้ไปไหว้สถานที่ที่แท่นอนุสรณ์ไว้อาลัยเหยื่อ 9 รายด้านหลังวัดป่าศรัทธารวมฯ กล่าวไว้อาลัยส่งคำอธิษฐานไปยังผู้วายชนม์ด้วยความเศร้า
ทั้งนี้ ในช่วงเย็นวันนี้ (9 ก.พ.) จะมีการการมอบเงินเยียวยาจากกระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง มีพระราชบัญญัติสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติ หรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. 2543 ด้านพลเมืองดีของสังคม บุคคลที่ทำความดีให้แก่สังคม จำนวน 4 ราย ในจำนวนนี้มี “น้องเนย” นายจิรัฐิติกาล นอบไทย หนุ่มบิ๊กไบค์พลเมืองดี ที่ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า เทอร์มินอล 21 โคราช ปัจจุบันทุพพลภาพต้องทำกายภาพบำบัด และต่อสู้ชีวิตด้วยความลำบาก เงินชดเชยเพิ่มเติมจำนวน 520,000 บาท และเงินดำรงชีพ เดือนละ 7,500 บาทไปตลอดชีวิต โดยน้องเนยได้ทำเรื่องขอให้กองทัพภาคที่ 2 รับน้องชายเข้าเป็นทหารเป็นไปตามความประสงค์แล้ว
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า การจัดงานทำบุญบำเพ็ญกุศลอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้วายชนม์ในโอกาสครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์ทหารคลั่งกราดยิงประชาชนวันที่ 8-9 ก.พ. 2563 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 ราย บาดเจ็บ 58 ราย โดยเฉพาะภายในวัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล เสียชีวิตรวม 9 ศพว่า ตอนนี้มีการเสนอมายังจังหวัดฯ ว่าจะมีการทำบุญที่วัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้วายชนม์ 9 ราย ในส่วนของทางจังหวัดได้จัดพิธีบังสุกุลบำเพ็ญกุศลพิเศษแล้ว ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้บาดเจ็บนั้นทางจังหวัดและเหล่ากาชาดจังหวัดก็ยังดูแลอย่างต่อเนื่อง
ส่วนอาการบาดเจ็บของ “น้องเนย” นายจิรัฐิติกาล นอบไทย หนุ่มบิ๊กไบค์พลเมืองดี ผู้บาดเจ็บคนหนึ่งในเหตุการณ์นี้ที่อาการสาหัส สภาพร่างกายพิการ ยังรักษาตัวทำกายภาพบำบัดทุกวันอยู่ตลอด ซึ่งทาง “น้องเนย” ยื่นขอเสนอให้น้องชายเข้ารับราชการทหารในกองทัพภาคที่ 2 โดยได้ทำเรื่องไปยังกองทัพภาคที่ 2 แล้ว
นายวิเชียรกล่าวต่อว่า ล่าสุดได้มีการแบ่งมรดกของคนที่เสียชีวิตรายล่าสุด คือ นายสุรชัย ขันอาสา ที่ไปรักษาต่อที่ จ.อุบลราชธานี และต่อมาได้เสียชีวิตลงเมื่อเร็วๆ นี้ที่ผ่านมา โดยมีปัญหาเรื่องมรดกซึ่งทางจังหวัดฯ ได้จัดสรรเงินให้นายสุรชัยไปแล้ว แต่พอเมื่อนายสุรชัยเสียชีวิตลง จังหวัดฯ ได้เข้าไปช่วยเหลือเรื่องการจัดการมรดกแบ่งกันเป็นที่เรียบร้อยลงตัวแล้ว รวมทั้งคนอื่นๆ ด้วย
สำหรับผู้บาดเจ็บรายอาการหนักสาหัสจนถึงขณะนี้มีอาการดีขึ้นกลับไปรักษาตัวที่บ้าน และไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นประจำ นอกจากนี้ ทางเหล่ากาชาดจังหวัดฯ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยทหารมีการจัดเป็นทีมไปเยี่ยมเยียนครอบครัวทั้งผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บเป็นประจำทุกเดือน
นางวันเพ็ญ อำพาส คลังจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง มีพระราชบัญญัติสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติ หรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. 2543 ด้านพลเมืองดีของสังคม บุคคลที่ทำความดีให้แก่สังคม นอกจากได้รับการชื่นชมและเชิดชูคุณงามความดีแล้ว หากได้รับอันตรายจนสูญเสียอวัยวะ พิการ ทุพพลภาพจนไม่สมารถทำงานได้ หรือถึงแก่ความตาย ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนราชการ จึงมี พ.ร.บ.สงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. 2543 กำหนดให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยเป็นก้อนกรณีทุพพลภาพได้รับเงินดำรงชีพเป็นรายเดือนตลอดชีวิตอีกด้วย
หรือกรณีถึงแก่ความตายนอกจากจะได้รับเงินค่าพยาบาลก่อนถึงความตาย และเงินชดเชยแล้ว ยังมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพด้วยบุคคลผู้มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือประชาชนทั่วไปกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ การช่วยเหลือราชการด้วยความสมัครใจ หรือทางราชการร้องขอโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ จากการปฏิบัติงานของชาติในระดับงานที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติหน้าที่เป็นพลเมืองดี เช่น การช่วยเหลือคนตกน้ำ ช่วยสกัดคนร้าย เป็นต้น จนเป็นเหตุให้ถูกทำร้าย หรือได้รับอันตรายถึงสูญเสียอวัยวะ หรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานหรือ พิการทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวต้องไม่เกิดขึ้นจากดวามประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือเกิดจากความผิดของตนเอง
กรณีเหตุกราดยิงกลางเมืองโคราชและศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้เสียชีวิต รวม 31 ราย และได้รับบาดเจ็บ 58 ราย เป็นผู้มีสิทธิได้รับงินสงเคราะห์จากเหตุการณ์คนรายกราดยิงประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา และบริเวณศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ผู้ประสบภัยฯ ดังนี้
กรณีเสียชีวิต จ่ายให้ทายาท เงินชดเชย 450,000 บาท เงินค่าทำศพ 45,000 บาท 1. นายอำนาจ บุญเอื้อ (จ่ายวันที่ 27 มีนาคม 2563) โดยนางกัญญารัตน์ บุญเอื้อ (ภรรยา) 150,000 บาท และเด็กหญิงธีรดา บุญเอื้อ (บุตร) 300,000 บาท 2. นายอธิวัฒน์ พรมสุข (จ่ายวันที่ 27 มีนาคม 2563) โดยมี นางสาวอนงค์ สมหวัง (มารดา) 450,000 บาท 3. สิบเอก เมธา เลิศศิริ (จ่ายวันที่ 26 มกราคม 2563) โดยมี นางกรรณิกร ค๊อปแลนด์ (มารดา) 150,000 บาท และเด็กชายวราวุฒิ เลิศศิริ (บุตร) 300,000 บาท
ส่วนกรณีทุพพลภาพขนาดหนัก จ่ายเงินชดเชย 520,000 บาท และมอบเงินดำรงชีพรายเดือน เดือนละ 7,500 บาท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ให้แก่ “น้องเนย” นายจิรัฐิติกาล นอบไทย