ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สมัครรับเลือกตั้งนายกเล็ก-ส.ท.โคราช 90 แห่งวันแรกคึกคัก ท่ามกลางคุมเข้มโควิด-19 โดยเฉพาะเทศบาลนครโคราช “ประเสริฐ” อดีต รมว.อุตฯ เด็ก “สุวัจน์” นำทัพสู้ศึกหลัง “ลูกเจ๊เกียว” เว้นวรรค มี “หมอโจ้” อดีต ปธ.หอฯ เป็นคู่แข่งสำคัญ ชิงบริหารงบฯ 1,600 ล้าน ขณะเทศบาลฯ โพธิ์กลางมี 3 ทีมใหญ่ลงชิงเก้าอี้คุม 130 ล้าน
วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) วันแรกทั้ง 90 แห่งของจังหวัดนครราชสีมาเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะที่เทศบาลนครนครราชสีมาเป็นท้องถิ่นขนาดใหญ่ บริหารจัดการงบประมาณมากที่สุดในภาคอีสานกว่า 1,600 ล้านบาทต่อปี ทางเจ้าหน้าที่ที่ได้จัดเตรียมสถานที่บริเวณชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียรติ และห้องประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมาเป็นที่รับสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและสมาชิกเทศบาลนครนครราชสีมา (ส.ท.) ท่ามกลางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่ประตูทางเข้า และต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน รวมทั้งบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือครอบคุลมพื้นที่ ซึ่งจะให้ขึ้นไปได้ไม่เกิน 60 คน ส่วนผู้ติดตามรวมทั้งบรรดากองเชียร์ให้รออยู่ชั้นล่างของอาคาร
การรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาวันแรกนี้มีผู้สมัครเดินทางมาถึงก่อนเวลาเปิดรับสมัคร จึงตกลงกันจับสลาก ผลปรากฏว่าหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา หมายเลข 1 คือ นายอัคคชา พรหมสูตร ทีมโคราชมหานคร, หมายเลข 2 นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีต รมว.อุตสาหกรรม ทีมโคราชชาติพัฒนา และ หมายเลข 3 นายจักริน เชิดฉาย อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาและอดีตแกนนำ กปปส.นครราชสีมา ทีมโคราชเพื่อโคราช โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เข้าสังเกตการณ์ครั้งนี้ด้วย
ส่วนนายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาหลายสมัยและหัวหน้ากลุ่มประสานมิตรพัฒนา ประกาศขอเว้นวรรคการเมือง เนื่องจากต้องไปดูแลบริหารธุรกิจอู่ต่อรถโดยสารของครอบครัวและดูแลแม่ “เจ๊เกียว” นางสุจินดา เชิดชัย อายุ 83 ปี ซึ่งสุขภาพไม่แข็งแรงและอายุมากแล้ว
ขณะที่เทศบาลตำบลโพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งใช้หอประชุมสำนักงานเทศบาลฯ เป็นสถานที่รับสมัคร มีบรรดาผู้สมัครฯ นายกเทศมนตรี และ ส.ท.จากกลุ่มต่างๆ พร้อมกองเชียร์เดินทางมาถึงก่อนเวลารับสมัคร 08.30 น. ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มการระบาดโควิด-19 โดยทุกคนที่เข้ามายังสถานที่รับสมัครจะต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวด
จากนั้น นายทศพล ขุนภิรมย์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลโพธิ์กลาง ได้เรียกผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลางที่เดินทางมาจำนวน 3 ราย มาตกลงกันแต่ไม่สามารถตกลงกันได้จึงให้ทำการจับสลาก ปรากฏว่า นายดีสมใจ คล่องขยัน จากกลุ่ม “เรารักษ์โพธิ์กลาง” ได้หมายเลข 1, นายโพธิ์ทอง ไกรอ่ำ ผู้สมัครอิสระ ได้หมายเลข 2 และ นางทัศนียา กองแก้ว จากกลุ่ม “พัฒนาโพธิ์กลาง” ภรรยาของอดีตนายกเทศมนตรีที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเนื่องจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในการยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จตั้งแต่ปี 2561 ได้หมายเลข 3
ส่วนสมาชิกสภาเทศบาลฯ มีการตกลงกันโดยให้ตัวแทนจับสลากกลุ่มละ 1 คนเพื่อให้ได้หมายเลขเรียงกันในทุกเขตเลือกตั้ง การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ให้ผู้สมัครลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำเทศบาลบาลตำบลโพธิ์กลาง
สำหรับเทศบาลตำบลโพธิ์กลางมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2.3 หมื่นคน มี 34 หน่วยเลือกตั้ง มี 2 เขตเลือกตั้ง มีจำนวนสมาชิกสภาเทศบาลได้ 12 คน นายกเทศมนตรี 1 คน เป็นสนามการเลือกตั้งที่ถูกจับตามองอีกเทศบาลหนึ่งเนื่องจากมีพื้นที่การปกครองกว้างถึง 11 หมู่ เนื้อที่ทั้งหมด 55 ตารางกิโลเมตร มีอัตราการขยายตัวของประชากรสูง ได้งบประมาณบริหารปีละกว่า 130 ล้านบาท เป็นอันดับต้นๆ เทียบเท่ากับเทศบาลเมือง
นายทศพล ขุนภิรมย์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลโพธิ์กลาง กล่าวว่า ในวันแรกการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้สมัครฯ ทั้งนายกเทศมนตรี และ ส.ท.สามารถพูดคุยกันได้ ทำให้การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้ และผู้สมัครฯ ได้ลงลายมือชื่อรับทราบและไม่มีข้อข้องใจแต่อย่างใด โดยหลังเสร็จสิ้นการรับสมัครในวันที่ 12 ก.พ.นี้จะส่งรายชื่อผู้สมัครทั้งนายกเทศมนตรี และ ส.ท.ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้าม 26 ข้อ เพื่อรับรองการรับสมัครอย่างเป็นทางการ
“การแข่งขันทางการเมืองของพื้นที่เทศบาลตำบลโพธิ์กลางคาดว่าจะไม่รุนแรงเนื่องจากผู้สมัครเป็นคนในพื้นที่คุ้นเคยกันดีและทุกคนรักษากฎกติกาที่วางไว้ คาดว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 70” นายทศพลกล่าวในตอนท้าย
