ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ผบช.ภ.3” นำคณะแถลงข่าวโชว์ผลงานกวาดล้างปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่อีสานใต้ของตำรวจภาค 3 รวบเครือข่ายยานรกได้ 28 คน พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 440,000 เม็ด ลุยยึดทรัพย์อีก 20 ล้าน ลั่นระดมกวาดล้างในทุกมิติ พ่อค้ายาเสพติดต้องไม่มีที่ยืน
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมคณะ แถลงผลการระดมกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ ทั้งการทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นในได้ผู้ต้องหารวม 28 ราย ของกลางยาบ้า 440,000 เม็ด ประกอบด้วยดังนี้
คดีที่ 1 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 พร้อมทีมงานได้ร่วมบูรณาการกับตำรวจภูธรจังหวัด (ภ.จว.) อุบลราชธานี, ภ.จว.บุรีรัมย์ และ ภ.จว.ศรีสะเกษ หน่วยงานทหาร ฝ่ายปกครอง สืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายผู้ค้ายาบ้ารายสำคัญเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยลักลอบนำยาบ้าเข้ามาจำหน่ายให้แก่ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 หลายจังหวัด และกระจายแพร่ระบาดถึงผู้ค้ารายย่อย และผู้เสพอย่างรวดเร็ว จึงได้สืบสวนเริ่มจากผู้เสพและผู้ค้ารายย่อยจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 8 คน พร้อมของกลาง 1. ยาบ้า จากการตรวจยึดจำนวน 136,000 เม็ด (68 มัด) 2. ยาบ้า จากการตรวจค้นตัวผู้ถูกจับ เพิ่มเติม 427 เม็ด 3. รถยนต์กระบะ จำนวน 3 คัน 4. จักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน 5. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ประมาณ 1,300,000 บาท
แจ้งดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ผู้ต้องหาทุกคนให้การสอดคล้องต้องกันว่าได้ติดต่อซื้อขายยาบ้าจากผู้ค้าชาวลาวซึ่งจะได้สืบสวนจับกุมต่อไป
คดีที่ 2 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 พ.ต.อ.วรการ ป้องกัน ผกก.สภ.วารินชำราบ พร้อมชุดสืบสวนได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 42,000 เม็ด และตรวจยึดรถยนต์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ จำนวน 1 คัน พฤติการณ์ คือ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนหาข่าวทราบว่าจะมีการส่งมอบยาบ้ากันที่ถนนวาริน-พิบูล บริเวณบ้านวังกาฮุง หมู่ 1 ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยรถที่จะมาส่งมอบยาบ้านั้นเป็นรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว 4 ประตู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนจับกุม และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนได้พร้อมด้วยของกลาง จึงได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้บุคคลทั้ง 3 คนทราบ และนำตัวพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
คดีที่ 3 นายธัชกร หัตถาธยากูล ผวจ.บุรีรัมย์, พล.ต.ต.รุธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.นิรันดร์ แก้วอิน รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ อำนวยการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์, ตชด.21, 215, 216, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยราช ฝ่ายปกครอง จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ทหาร ขกท. ศปก.ทบ.(มว.ขกส.2, ขกท.กกล.สุรนารี) บูรณาการปฏิบัติในการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด จับกุมทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ผู้ต้องหา 6 คน ตรวจยึดยาบ้ารวม 50,000 เม็ด และตรวจยึดจักรยานยนต์ 6 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ประมาณ 200,000 บาท
พฤติการณ์เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อเนื่องวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้จับกุมตัวผู้ต้องหา 6 คน และได้ทำการซักถาม สืบสวนขยายผลต่อเนื่องในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 สามารถจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีกจำนวน 2 คน รวมจับกุมผู้ต้องหา 6 คน ของกลางยาบ้าจำนวน 50,000 เม็ด ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์อยู่ระหว่างขยายผลสืบสวนเส้นทางการเงินและผู้เกี่ยวข้องเพื่อจับกุมทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดต่อไป
คดีที่ 4 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ พร้อมทีมงานร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 42,005 เม็ด ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย สถานที่เกิดเหตุ บ้านไม่ทราบเลขที่ กลางสวนยางพารา บ้านร่องแว่ ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
พฤติการณ์คือ จากการสืบสวนหาข่าวทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) ในเขต อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ โดยมีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าให้กับวัยรุ่นที่บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ กลางสวนยางพารา บ้านร่องแว่ ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จว.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นสวน ชุดจับกุมได้ติดตามพฤติการณ์เรื่อยมา ต่อมาสืบสวนทราบว่า ได้นัดจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นที่บ้านไม่ทราบเลขที่ดังกล่าว ชุดจับกุมได้เข้าไปตรวจสอบพบอยู่ในสวนยางข้างบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นตัวและบ้านพักพบยาบ้าจำนวน 24,005 เม็ด
จากการซักถามขยายผลให้การว่ายังมียาบ้าซุกซ่อนอยู่บริเวณสวนยางพาราโดยวิธีการฝังดิน ได้พาเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบและตรวจยึดยาบ้ายังจุดฝังดินจำนวน 2 จุด พบยาบ้าอีกจำนวน 9 มัด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันแจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ทราบ จากนั้นได้นำตัวพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป
คดีที่ 5 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ภ.จว.นครราชสีมา โดย พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สีคิ้ว ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 8 คน พร้อมของกลาง 1. ยาบ้า ประมาณ 170,600 เม็ด (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหกร้อยเม็ด) และ 2. สารไอซ์ ชั่งน้ำหนักรวมถุงได้ 22.33 กรัม 3. อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 4 นัด 4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง 5. จักรยานยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด รวม 3 คัน และรถยนต์ 1 คัน (ดำเนินการยึดทรัพย์ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534)
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สีคิ้ว ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จากการขยายผลรับว่าได้ซื้อยาบ้าโดยติดต่อซื้อขายยาบ้าผ่านทางแอปพลิเคชัน ซึ่งมีการซื้อขายยาเสพติดต่อกันมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลสามารถจับกุมผู้ต้องหารวม 8 คน พร้อมของกลางดังกล่าว และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมผู้ต้องหาที่ 1 ว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวอีกว่า ตำรวจภูธรภาค 3 จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการ ทุกแห่ง ในการแจ้งเบาะแส ข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถานประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด สายด่วน 191 และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด เพราะเราจะไม่ยอมให้มียาเสพติดอยู่ในพื้นที่อย่างเด็ดขาด