พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่งหนังสือ แจ้งคณะสงฆ์งดรับกิจนิมนต์ไปพื้นที่ควบคุมสูง สุด 5 จังหวัด ลั่นไม่นิ่งนอนใจติดตามเงินเยียวยาโควิด-19
นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับพระสงฆ์ ในการระบาดระลอกใหม่นี้ ยอมรับว่าจะต้องเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากในการระบาดรอบแรกยังไม่พบพระสงฆ์ติดโควิด-19 แต่ครั้งนี้ พบว่ามีพระสงฆ์วัดในจ.นนทบุรีติดโควิด-19 แล้ว 4 รูป เป็นระดับเจ้าอาวาส 1 รูป และพระลูกวัด 3 รูป ซึ่งพระทั้ง 4 รูป ได้มีการรับกิจนิมนต์ไปในพื้นที่ควบคุมการระบาดสูงสุด
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ในคณะสงฆ์ พศ.ได้มีหนังสือแจ้งไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.) และคณะสงฆ์ทั่วประเทศ ขอให้งดรับกิจนิมนต์ไปในพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุด คือสมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทั้งนี้การระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกที่สองนี้ ไม่ถึงกับทำให้การปฏิบัติศาสนกิจของพระสงฆ์ทำไม่ได้ แต่ในการปฏิบัติศาสนกิจจะต้องทำตามมาตรการการควบคุมการระบาดของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) อย่างเคร่งครัด เช่น งดกิจกรรมที่รวมคนจำนวนมาก เป็นต้น
ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าพระสงฆ์มีการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ทั้งยังมีหลายวัดในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ที่พร้อมให้เปิดพื้นที่วัดใช้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามด้วย
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการพศ. ในฐานะโฆษก พศ. กล่าวว่า กรณีเงินเยียวยาพระสงฆ์จากการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลพศ. มีความห่วงใย และสั่งการมายังผอ.พศ.แล้ว และผอ.พศ.ได้มอบตนให้มาดูในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากในการขอรับเงินเยียวยาในการระบาดระลอกแรกจำนวน 60 บาทต่อรูปต่อวันนั้น ยังไม่ได้รับ
เนื่องจากคณะกรรมการที่พิจารณาในเรื่องนี้ได้ตั้งข้อสังเกตว่า คณะสงฆ์มีความพร้อมและได้รับปัจจัยต่างๆอยู่แล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วมีเพียงไม่กี่วัดที่มีความพร้อมในเรื่องดังกล่าว จึงขอยืนยันว่า พศ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเข้าใจความลำบากของพระสงฆ์ ขณะนี้ พศ.ได้ทำรายละเอียดแจกแจงถึงความจำเป็นของพระสงฆ์เสนอต่อนายอนุชา แล้ว