อุบลราชธานี-อึ้ง! เด็ก 11 ขวบสุดทนพ่อติดเกมหนัก บังคับให้เล่นด้วย สุดท้ายไม่พอใจถึงขั้นตบตีหนัก ตัดสินใจขี่จักรยานหนีจากอ.สำโรง กะปั่นไปหาแม่ที่กรุงเทพฯ โชคดีครูชาวศรีสะเกษเห็นก่อน ประสานญาติรับ ทีมสหวิชาชีพเตรียมเข้าคุยทั้งเด็กและพ่อ
จากกรณีเมื่อค่ำวันที่ 1ก.พ.ที่ผ่านมา มีครูชาวจังหวัดศรีสะเกษ พบเห็นเด็กชายบอย (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ เป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอสำโรง จ.อุบลราชธานี ปั่นรถจักรยานสองล้อ อยู่ในเขตเทศบาลตำบลกันทรารมย์ ขณะมืดค่ำแล้ว เมื่อสอบถามทราบว่า ด.ช.บอย หนีออกจากบ้าน โดยหลังเลิกเรียนช่วงบ่ายของเมื่อวาน ตั้งใจจะปั่นรถจักรยานสองล้อของตนไปที่กรุงเทพฯ เพื่อหาแม่ที่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน
หลังทราบเรื่อง จึงนำไปโพสต์ติดตามหาผู้ปกครอง และได้โทรศัพท์ประสานไปที่โรงเรียนที่เด็กชายบอยเรียนอยู่ หลังคณะครูทราบเรื่องได้พร้อมกับนางบัวลา เจริญทัศน์ อายุ 74 ปี ย่าทวดของเด็กชายบอย เดินทางไปรับตัวหลานกลับมาที่บ้าน เพื่อสอบถามสาเหตุที่หนีออกจากบ้านและจะปั่นรถจักรยานสองล้อไปหาแม่ที่กรุงเทพฯ
ทำให้ทราบว่า พ่อแม่ของเด็กชายบอยเลิกลากันไปได้หลายปี และแม่ได้ไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ โดยนำตัวเด็กชายบอยไปพักอาศัยอยู่ด้วย กระทั่งเมื่อปีก่อน แม่ได้ส่งตัวเด็กชายบอยกลับมาอยู่กับพ่อ และเข้าเรียนที่โรงเรียนในพื้นที่อ.สำโรง ระหว่างที่มาอยู่กับพ่อ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะพ่อเอาแต่เล่นเกมส์ ไม่ทำงาน ทำให้เด็กชายบอยรู้สึกอึดอัด เพราะบางครั้งพ่อชวนให้ลูกเล่นเกมส์ด้วย เมื่อไม่ได้ดังใจก็จะหาเรื่องตีเด็กชายบอยเป็นประจำ จึงตัดสินใจหลังเลิกเรียนเมื่อวาน พ่อจะให้เข้าไปเล่นเกมส์ในห้องด้วย แต่ตนไม่อยากเล่น จึงเอาจักรยานปั่นจะไปหาแม่ที่กรุงเทพฯดังกล่าว
หลังจากทราบปัญหาคณะครูได้ให้เด็กชายบอย ไปอยู่กับญาติในหมู่บ้าน รวมทั้งทางฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้เข้ามาสอบถามดูแลด้านสุขภาพเบื้องต้นให้กับเด็กชายบอยด้วย
ด้าน น.ส.ปวีณา ดุจดา อดีตครูประจำชั้นของเด็กชายบอย เล่าถึงอุปนิสัยว่า บอยเป็นเด็กเงียบๆ ไม่ค่อยพูดคุยกับใครมาก การเรียนยังค่อนข้างช้า และเล่าว่าพ่อชอบดุด่าถ้าไม่ได้อย่างใจ ซึ่งเคยไปเยี่ยมลูกศิษย์รายนี้ที่บ้าน และพอจะทราบปัญหาที่พ่อไม่ใส่ใจดูแลลูกชายเท่าที่ควร เพราะพ่อก็มีอาการป่วย เนื่องจากติดเกมส์ โดยปีที่แล้วก็ขอทุนจาก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จ.อุบลราชธานี ให้ช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายกับเด็กชายบอย ส่วนปีนี้อยู่ระหว่างทำเรื่องขอเพิ่มเติม
ด้านการดูแลเด็กชายบอย ก็อยู่ในกลุ่มเด็กนักเรียนที่โรงเรียนจะดูแลเป็นกรณีพิเศษ เพราะมีปัญหาทางบ้านและเด็กก็ได้เข้ารับการรักษาบำบัดกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตามที่หมอนัด อาจเป็นไปได้ว่า เด็กชายบอยคงเก็บไว้ในใจนานแล้ว จึงตัดสินใจจะไปหาแม่ดังกล่าว
ขณะที่นายสรพงษ์ ชายแก้ว ปลัดอาวุโสอำเภอสำโรง ซึ่งได้มาพูดคุยสอบถามปัญหากับเด็กชายบอย ระบุว่า เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพจะเข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับพ่อของเด็กชายบอย และจะขอตัวเด็กชายบอยให้ไปอยู่ในความดูแลและเรียนที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 32 ในพระบรมราชินูปถัมภ์ อำเภอเมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ เพื่อให้เด็กชายบอยได้อยู่กับเพื่อนวัยเดียวกัน และจะได้เรียนอย่างเต็มที่ต่อไปด้วย
นางบัวลา เจริญทัศน์ ย่าของเด็กชายบอย เล่าว่าพ่อของเด็กชายบอย ชอบบังคับลูกให้เล่นเกมส์ด้วยกัน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะไม่ให้ลูกไปไหนจะให้เล่นเกมส์อยู่ด้วยกันในห้อง แต่หลานชายก็ไม่ชอบ พร้อมยอมรับว่าเคยเห็นพ่อใช้ไม้ตีเด็กชายบอยเหมือนกัน แต่พ่อเด็กชายบอยไม่ได้ติดยาเสพติด เพียงแต่เล่นเกมส์อย่างเดียว ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ไม่ออกจากบ้านไหน
