ชัยนาท - เทศบาลสรรพยา พาครูสังกัดท้องถิ่นอบรมการเรียนแบบแอ็กทีฟเลิร์นนิ่ง หวังครูนำความรู้ถ่ายทอดนักเรียน
วันนี้ (30 ม.ค.) นายจักรพันธุ์ ตันติเสรีรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลสรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กล่าวว่า เทศบาลตำบลสรรพยา ได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนเทศบาลสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในการเรียนรู้แบบ Active Learning ในเชิงรุก โดย พว.จะให้ความรู้ในการพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดท้องถิ่นให้มีความรู้ความเข้าใจการเรียนรู้แบบ Active Learning ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมของเด็ก
“เทศบาลตำบลสรรพยา มองว่าเมื่อเด็กได้เรียนรู้แบบ Active Learning จะทำให้เด็กสามารถสร้างนวัตกรรมด้วยตัวเองได้ ผมจึงส่งครูในสังกัดท้องถิ่นของเทศบาลตำบลสรรพยาทุกคนเข้าอบรมเรื่องการเรียนรู้แบบ Active Learning กับ พว. ผมมั่นใจว่าจะสามารถพาครูไทยไปสู่การสอนที่บรรลุเป้าหมาย ที่สำคัญนักเรียนจะได้รับประโยชน์สูงสุด” นายจักรพันธุ์ กล่าว
ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหารสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) กล่าวว่า ปัจจุบันได้เปลี่ยนจากการเน้นเนื้อหามาเน้นมาตรฐาน ตัวชี้วัด ความสามารถหรือสมรรถนะแทนการท่องจำเนื้อหา ทำให้กระบวนการเรียนรู้ต้องปรับเปลี่ยน ถึงแม้จะมีการปรับหลักสูตรมาแล้วหลายครั้ง แต่กระบวนการเรียนรู้เรายังไม่เปลี่ยน ทำให้ประเทศไทยยังไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิรูปการศึกษา จึงจำเป็นต้องมีการทำความเข้าใจกันใหม่ว่า หลักสูตรคือแผนการจัดประสบการณ์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้ได้เอง ซึ่งการเรียนรู้เพื่อสร้างความรู้นั้นจะมีทั้งเรื่องของมาตรฐาน สมรรถนะ กระบวนการ รวมถึงคุณภาพในมิติต่างๆ ด้วย ฉะนั้นถ้าเราไม่สามารถก้าวข้ามความเข้าใจว่าการปรับหลักสูตร คือ การปรับเนื้อหาไปได้ ประเทศไทยก็จะติดกับดักและเดินต่อไปไม่ได้
“หัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการปฏิรูปการเรียนรู้ คือ การเพิ่มคุณภาพผู้เรียน ด้วยกระบวนการสอนที่เชื่อมโยงเข้ากับทุกเนื้อหา เป็นรูปแบบการเรียนรู้แนวใหม่ ที่เรียกว่า Active Learning ซึ่งสอดคล้องกับศาสตร์พระราชา ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงวางไว้ให้เราเดินตามอย่างชัดเจน และจากที่ดูยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 11 ด้าน ทุกอย่างอิงการศึกษา แต่ปรากฏว่าคุณภาพการศึกษาของเรายังไปไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะไปพัฒนาสังคมได้อย่างไร เพราะฉะนั้นการปฏิรูปการศึกษาด้วยกระบวนการเรียนรู้จะทำให้เด็กเข้าถึงสังคมฐานความรู้ การสร้างองค์ความรู้ได้ ตนเชื่อว่าประเทศไทยมีต้นทุนสูงอยู่แล้วในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และสามารถปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนไปสู่จุดนั้นได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าจะมีความจริงจังแค่ไหนที่จะทำเรื่องนี้” ดร.ศักดิ์สิน กล่าว