xs
xsm
sm
md
lg

กาญจน์ผ่อนปรนอนุญาตนำเข้า-ส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค-เกษตร-ปศุสัตว์ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศผ่อนปรนอนุญาตนำเข้า-ส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค เกษตร ปศุสัตว์ ยกเว้นยาสูบและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อบรรเทาผลระทบจากโควิด-19 เฉพาะวันที่ 3-4 ก.พ.นี้ เริ่ม 07.00-17.00 น. ภายใต้หลักการ Social Distancing ฝืนเจอทั้งคุก-ปรับ

วันนี้ (28 ม.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 506/2564 เรื่อง ผ่อนผันการระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี และจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

ทั้งนี้ ตามอนุสนธิคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 276/2564 ลงวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2564 เรื่อง ระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรีและจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาตินั้น

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ระลอกใหม่ ส่วนมากพบการแพร่ระบาดที่บริเวณตอนบนของรัฐมอญ แต่ยังคงต้องมีการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับมีผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากปัจจุบันไม่สามารถส่งออกและนำเข้าสินค้าไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าได้ ถ้าหากปล่อยไว้เนิ่นนานจะทำให้สินค้าเสียหาย และอาจส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคในการดำรงชีวิตของประชาชนตามแนวชายแดน

ดังนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 5 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2563

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติในการพิจารณาการเปิด ระงับหรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ จังหวัดกาญจนบุรี จึงมีคำสั่ง ดังนี้

1.ผ่อนปรนให้นำเข้าและส่งออกสิค้าอุปโภคบริโภค การปศุสัตว์ (สัตว์น้ำ สัตว์บก และสัตว์ปีกทุกชนิด) สินค้าทางการเกษตร และสิ่งของจำเป็นที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันทุกประเภท ยกเว้นยาสูบ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด เฉพาะในวันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 และวันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.ของวันดังกล่าว

โดยให้เปลี่ยนถ่ายสินค้าในลักษณะท้ายชนทายรถ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี และจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ซึ่งต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัยในเรื่องการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหลักการของ Social Distancing และจะต้องทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะทั้ง 2 ฝ่าย และให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศโดยเคร่งครัด

2.เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรค 2 (1)แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ และวันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. ของวันดังกล่าว สั่ง ณ วันที่ 28 มกราคม พ.ศ.2564




กำลังโหลดความคิดเห็น