อุดรธานี - จับสองผัวเมียแก๊งค้ายาบ้าพร้อมยึดธนบัตรปลอม 1.2 ล้านบาท หลังตำรวจชุดสืบสวนภูธรอุดรธานีบุกเข้ายึดได้ก่อนถูกกระจายไปทั่วประเทศ ด้านตำรวจเร่งล่า “ไอ้เสือดำ” หัวโจกแก๊งยานรกและธนบัตรปลอม คาดหนีข้ามแดนกบดานฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
วันนี้ (28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภูธร จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สืบสวนภูธร จ.อุดรธานี พ.ต.ท.สรพงษ์ งิมสันเที้ยะ รอง ผกก.กก.สืบสวน ร.ต.อ.สรวิชญ์ คำเมืองคุณ รอง สว.สส.กก.สืบสวน พร้อมด้วย ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายคมสันต์ วจนีประศรี หรือบอย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 348 ม.11 บ้านเม่น ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี และ น.ส.พายุ ทิพสม หรือยุ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 ม.7 ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พร้อมด้วยของกลางเป็นยาบ้า 406 เม็ด
นอกจากนี้ ยังมีธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 12 มัด จำนวน 1,200 ฉบับ รวมมูลค่า 1,200,000 บาท โดยของกลางทั้งหมดยึดได้ที่บ้านของนายบอย โดยตำรวจได้แจ้งข้อหา “เสพและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อนำออกใช้โดยผิดกฎหมาย”
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภูธร จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากวันที่ 25 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนภูธร จ.อุดรธานีสืบทราบมาว่า นายบอย พร้อมด้วย น.ส.พายุ ซึ่งเป็นสามีภรรยากันได้ลักลอบจำหน่ายยาบ้าและนำธนบัตรปลอมจำนวนมากมาซุกซ่อนไว้ในบ้านเพื่อรอลูกค้ามารับไปขายต่อทั่วประเทศ แต่ตำรวจสืบสวนสืบทราบก่อนจึงเข้าจับกุมได้ โดยเฉพาะธนบัตรปลอมสามารถยึดได้นับมูลค่ากว่าล้านบาท รวมกันเป็นมัดๆ ซุกซ่อนอยู่ในฝ้าเพดานของบ้านนายบอย ซึ่งหากธนบัตรปลอมจำนวนนี้หลุดกระจายไปทั่วประเทศจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างมาก
ขณะที่นายบอย ให้การรับสารภาพว่ายาบ้าและธนบัตรปลอมมีนายเอก ไม่รู้ชื่อจริงและนามสกุล หรือกลุ่มนักค้ายาบ้าจะเรียกฉายา “เสือดำ” หัวโจกแก๊งยาบ้าได้ให้ลูกน้องนำมาให้ โดยยาบ้าล่าสุดตนสั่งมาจำนวน 2,000 เม็ดขายไปบางส่วน
ส่วนธนบัตรปลอมจำนวน 1,200,000 บาทนั้น นายเอก ได้นำมาให้ตนด้วย และบอกว่าเดี๋ยวจะทักไลน์มาบอกอีกทีว่าจะมีคนมารับวันไหน แต่ยังไม่มีคนมารับก็ถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมก่อน
ภายหลังจับกุม ตำรวจได้ควบคุมตัวทั้งสองดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนไอ้เสือดำหัวโจกแก๊งค้ายาบ้าและธนบัตรปลอมที่กำลังหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านอยู่ขณะนี้ จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ของประเทศเพื่อนบ้านเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไป
