อุทัยธานี - ถ้ารู้ก็ไม่เอาอยู่แล้ว จะแกว่งเท้าหาเสี้ยนทำไม..เปิดใจยายวัย 70 ปีชาวหนองฉาง หนึ่งในผู้สูงอายุที่ถูกเรียกคืนเบี้ยยังชีพเกือบ 60,000 บาท หลังกรมบัญชีกลางพบรับบำนาญสามีอดีตทหารโดนระเบิดเสียชีวิตในลาว
นายวรชาติ ลิลา นายก อบต.หนองยาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี และนายเรวัสช์ โพธิ์หิรัญ ปลัด อบต. เปิดเผยถึงการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในพื้นที่ ว่ามีผู้ถูกเรียกคืนจำนวน 1 ราย คือ นางสนอง แสงแก้ว อายุ 70 ปี เป็นชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.หนองยาง อ.หนองฉาง
เนื่องจากกรมบัญชีกลางได้ตรวจสอบพบว่านางสนองเป็นผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญพิเศษจากสามี คือ ร.ต.เลย แสงแก้ว อดีตทหารสังกัดกองทัพบก ที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ใน สปป.ลาวเมื่อ พ.ศ. 2514 และถูกระเบิดเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ได้เพียง 3 เดือน ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ปูนบำนาญให้แก่ครอบครัว ซึ่งมีนางสนองเป็นผู้รับผลประโยชน์ดังกล่าว โดยได้รับเงินบำนาญพิเศษเดือนละ 10,000 บาท
ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 นางสนองได้เริ่มรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ในตอนนั้น อบต.หนองยางเป็นผู้ดำเนินการจ่ายเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุในพื้นที่โดยตรง ซึ่งขณะนั้น อบต.ได้อนุมัติการจ่ายเบี้ยไปเพราะไม่สามารถตรวจสอบสิทธิต่างๆ ของประชาชนรายบุคคลจากภาครัฐได้ว่าผู้สูงอายุรายใดบ้างที่ไม่สามารถรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ อบต.ทำได้เพียงดำเนินการตามขั้นตอนและปฏิบัติตามกฎของกระทรวงในการแจ้งหนังสือข้อระเบียบต่างๆ ให้แก่ผู้สูงอายุได้รับทราบ ตั้งแต่อายุ 59 ปี หรือ 1 ปี ก่อนเซ็นรับเบี้ยยังชีพดังกล่าวเท่านั้น
กระทั่งปี 62 ได้มีการปรับเปลี่ยนการจ่ายเบี้ยยังชีพ โดยกรมบัญชีกลางเป็นผู้จ่าย และมีการตรวจสอบจนพบว่านางสนองได้รับเงินบำนาญพิเศษดังกล่าวด้วย พร้อมส่งหนังสือแจ้งเรื่องดังกล่าวมาที่ อบต.จึงได้ประสานแจ้งเรื่องไปยังนางสนองให้ทราบเรื่องดังกล่าว ก่อนทำหนังสือรับสภาพหนี้กับทาง อบต.หนองยาง กรณีเป็นผู้สูงอายุที่ขาดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 โดยได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นเงินจำนวน 600 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555-พฤศจิกายน 2562 เป็นระยะเวลา 8 ปี 2 เดือน (หรือ 98 เดือน) โดยการผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน ตกลงชำระหนี้เป็นเงินจำนวน 58,800 บาท ด้วยการผ่อนชำระเป็นรายเดือน/งวด งวดละ 1,000 บาท จำนวน 58 เดือน/งวด และเดือน/งวดที่ 59 เป็นเงินจำนวน 800 บาท ซึ่งมีกำหนดชำระครั้งแรกในวันที่ 27 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 โดยทางนางสนองก็ได้จ่ายเงินคืนตรงทุกเดือนมาตลอดมากว่า 1 ปีแล้ว
ด้านนางสนองระบุว่า ไม่ได้กล่าวโทษอะไรต่อ อบต. อย่างไรก็ตามที่อยากให้เป็นข่าวเพราะอยากให้ทางราชการมาช่วยเหลือตน เนื่องจากปัจจุบันตนก็อายุมากแล้ว ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นหลัก มีเพียงเก็บผักบุ้งขายกำละ 4 บาทเท่านั้น ส่วนเงินบำนาญของสามีตอนนี้ได้รับที่เดือนละ 10,000 บาทก็ต้องเอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัว
“ทุกวันนี้ฉันได้รับความเดือดร้อนและลำบากมาก หยุดทำงานหารายได้เสริมไม่ได้เพราะต้องแบ่งสรรปันส่วนเงินไว้ใช้คืน อบต.เดือนละ 1,000 บาท อยากให้ทางราชการออกมาช่วยเหลือ ซึ่งถ้ารู้ว่าฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินตรงนี้ก็ไม่ไปรับอยู่แล้ว จะไปแกว่งเท้าตัวเองหาเสี้ยนให้เดือดร้อนแบบนี้ทำไม” นางสนอง กล่าว