ทายาทผู้รับเบี้ยซ้ำซ้อนเมืองชัยนาท ชี้ต้องการให้ผู้มีอำนาจแก้ไขกฎหมายยกหนี้ให้แทนการใช้คืน

ชัยนาท - ทายาทผู้รับเบี้ยซ้ำซ้อนเมืองชัยนาท ต้องการให้ผู้มีอำนาจแก้ไขกฎหมายยกหนี้ให้ แทนที่จะให้ลูกหลานมาต้องมาชดใช้แทนกว่า 1 แสนบาท ซึ่งแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ยืนยันที่ออกมาเรียกร้อง ไม่ได้ต้องการเงินช่วยเหลือ

จากกรณีนางมะลิ เณรแขก อายุ 56 ปี ที่กำลังทุกข์ใจ เนื่องจากขาดรายได้จากสถานการณ์โควิด-19 แต่มีภาระต้องชำระคืนเบี้ยผู้สูงอายุ เดือนละ 1,000 บาท รวมจำนวน 102,800 บาท แทนมารดาที่เสียชีวิตไปแล้วให้แก่เทศบาลตำบลสรรคบุรี หลังจากมารดาเคยได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากเทศบาลตำบลสรรคบุรี ซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญพิเศษของพี่ชายที่เสียชีวิตจากเครื่องบินตกในการปฏิบัติหน้าที่ทหารอากาศ จึงถูกเรียกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืนย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2562

ล่าสุด นางจุฬาภร ศิริเวช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท และ น.ส.ดรุณี มนัสวานิช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยจัดหางานจังหวัดชัยนาท หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท ลงพื้นที่นำเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1 ชุด ไปเยี่ยมและให้กำลังใจแก่นางมะลิ พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลและความต้องการของนางมะลิ เพื่อหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้น

ด้าน น.ส.ดรุณี มนัสวานิช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท (พมจ.ชัยนาท) เปิดเผยว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ จำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ขณะที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดชัยนาท ได้นำทะเบียนหางานมาให้นางมะลิ กรอกข้อมูล ตามความประสงค์และความถนัดในการทำงาน เพื่อประสานไปยังหน่วยงานห้างร้านในพื้นที่ที่กำลังเปิดรับสมัครงาน เพื่อที่นางมะลิ จะได้มีงานทำและมีรายได้เลี้ยงชีพ
ด้านนางมะลิ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีหน่วยงานต่างๆ เข้าไปให้กำลังใจและเร่งหาทางช่วยเหลือ ทำให้มีกำลังใจดีขึ้น และขอขอบคุณทุกคนที่นำสิ่งของมามอบให้ และจะหางานให้ทำ แต่ตนยังยืนว่าที่ออกมาเรียกร้องเรื่องครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการเงินช่วยเหลือแต่อย่างใด เพราะตนยังมีกำลังและสามารถทำมาหาเลี้ยงชีพตัวเองได้ แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแก้ไขกฎหมาย หรือแก้ไขระเบียบราชการเกี่ยวกับการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หากผู้สูงอายุเสียชีวิตไปแล้วก็ควรจะยกเป็นหนี้สูญ ไม่ควรต้องให้ลูกหลานต้องมาจ่ายเบี้ยคืนย้อนหลังเป็น 10 ปีเช่นนี้