จากกรณีหญิงชรา อายุ 89 ปี จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับหนังสือจากกรมบัญชีกลาง เรียกเก็บเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืนรวมดอกเบี้ย เป็นเงิน 84,000 บาท เนื่องจากได้รับบำนาญ กรณีลูกชายเป็นทหารเสียชีวิตจากเหตุคลังแสงระเบิด ซึ่ง กระทรวง พม. ได้ประสานให้ความช่วยเหลือแล้ว
ล่าสุดมีการเสนอข่าวในลักษณะคล้ายกันอีกรายที่จังหวัดชัยนาท ชื่อนางมะลิ เณรแขก อายุ 56 ปี อาศัยอยู่ตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท อายุ 56 ปี ซึ่งได้เซ็นรับสภาพหนี้แทนแม่ที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2562 โดยต้องผ่อนคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ถูกเรียกคืนร่วมแสนบาท เนื่องจากพี่ชายของนางมะลิฯ เป็นทหารอากาศ แต่ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิตไปเมื่อปี 2526 จึงทำให้นางชู ได้รับเงินบำนาญพิเศษ มาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันนางมะลิ พักอาศัยอยู่เพียงลำพัง ไม่ได้ประกอบอาชีพ ไม่มีรายได้ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตัดรายชื่อของผู้ที่เสียชีวิตออกจากการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ กระทรวง พม. จึงได้มอบหมายให้นางสาวเบญจมาส ทองคง นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท (พมจ.ชัยนาท) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการช่วยเหลือตามภารกิจด้านผู้สูงอายุของกระทรวง พม. ทันที ซึ่งจากการเยี่ยมนางมะลิ พบว่า ปัจจุบันนางมะลิ ต้องกักตัวจากสถานการณ์โควิค-19 ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ เบื้องต้น พมจ.ชัยนาท ได้มอบเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว พร้อมให้คำแนะนำเรื่องการประกอบอาชีพเพิ่มเติม
ส่วนแผนการช่วยเหลือจากนี้ จะนำเรื่องเข้าประชุมเพื่อสนับสนุนเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งแก่นางมะลิต่อไป โดยในส่วนของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ถูกเรียกคืน ทางนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จะให้นางมะลิ เข้าพบและพูดคุยเพื่อประนอมหนี้สินอีกครั้ง
