สระแก้ว - จับเท่าไรก็ไม่หมด! 16 แรงงานกัมพูชาลอบข้ามแดนเข้าไทยรับจ้างตัดอ้อยนายทุนสระแก้ว สารภาพเข้าทางช่องทางธรรมชาติไทย-กัมพูชา มีคนนำพาชาวกัมพูชาคิดค่าหัวรายละ 800 บาท ก่อนมีชาวไทยขับรถนำส่งในไร่อ้อย แต่สุดท้ายไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้ามืดวันนี้ (13 ม.ค.) พ.ต.ท.เรืองเดช ธรรมนันท์ รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษนะ วนะบดีนิมิต ผู้กำกับการ สภ.คลองน้ำใส และ ร.ต.ประวัติ สิทธิบุตร ผู้บังคบกองร้อยทหารพราน 1113 สังกัดชุดควบคุมกรมทหารพราน 13 ได้ร่วมกันควบคุมตัวแรงงานชาวกัมพูชา 16 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 6 คน และเด็ก 2 คน ที่โดยสารมาในรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 7687 สระแก้ว ซึ่งวิ่งมาจาก อ.คลองหาด มุ่งหน้า อ.อรัญประเทศ ด้วยความเร็วสูง
โดยได้ทำการขอตรวจสอบเอกสารการเดินทาง แต่ปรากฏว่า ชาวกัมพูชาไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปทำการคัดกรองโรคโควิด-19 ก่อนทำการสอบสวนอย่างละเอียดที่ สภ.คลองน้ำใส
การจับกุมดังกล่าวเป็นผลจากการที่ พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีแรงงานกัมพูชาลักลอบข้ามชายแดนจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย บริเวณ ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.เรืองเดช ธรรมนันท์ รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการลาดตระเวรบนถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และพื้นที่ต้องสงสัยใน ต.ทับพริก เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามชายแดนตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา
กระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยที่มี นายจักรกฤษ เจริญดง อายุ 32 ปี เป็นคนขับและกำลังวิ่งเข้ามาในหมู่บ้านทับพริก ที่อยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น
จากการสอบสวนผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา ทราบว่า แรงงานทั้งหมดได้รับการติดต่อจากนายจ้างคนไทยให้เดินทางข้ามชายแดนเข้ามารับจ้างตัดอ้อยในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จึงชักชวนกันเดินทางข้ามจากชายแดนกัมพูชาเข้ามาฝั่งไทยผ่านช่องทางธรรมชาติในช่วงเวลากลางคืน
และจะมีคนไทยขับรถยนต์เข้ามารับไปทำงานตัดอ้อย โดยพวกตนยอมจ่ายเงินค่าข้ามชายแดนให้แก่คนนำพาชาวกัมพูชาคนละ 800 บาท
ส่วน นายจักรกฤษ ซึ่งเป็นชาวไทยสารภาพว่าได้รับจ้างขับรถคนแรงงานเท่านั้น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบขนแรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจึงนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด