สระแก้ว - กัมพูชามีเฮ! สระแก้ว เตรียมนำแรงงานถูกกฎหมายเข้าทำงานในไร่อ้อย 400,000 ไร่ กว่า 12,000 คน เพื่อให้ทันฤดูกาลเปิดหีบ 4 ม.ค.นี้ ภายใต้มาตรการเข้มป้องกันโควิด-19 แต่ยังติดปัญหาค่าใช้จ่ายนายจ้างนำกักตัว 14 วันยังสูงเกินไป
วันนี้ (23 ธ.ค.) นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาหาแนวทางดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา ขอนำเข้าแรงงานชาวกัมพูชา เพื่อช่วยตัดอ้อยตามฤดูกาลเป็นเวลา 90 วัน ลดผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตร
โดยพบว่าขณะนี้มีแรงงานชาวกัมพูชาที่ขึ้นทะเบียนยืนยันนายจ้างถูกต้องแล้วประมาณ 5,000 คน แต่ความต้องการใช้แรงงานในพื้นที่จริงกลับมีมากกว่า 12,000 คน จากพื้นที่ไร่อ้อยที่มีมากกว่า 400,000 ไร่ และต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีประมาณ 3 ล้านตันให้ทัน
ขณะที่ นายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา ตัวแทนสมาคมชาวไร่อ้อย ยอมรับว่า ภาคการเกษตรใน จ.สระแก้ว มีควาทต้องการใช้แรงงานชาวกัมพูชามากถึง 12,000 คน ซึ่งที่ผ่านมา ศบค.สระแก้ว และผู้ประกอบการชาวไร่อ้อย ได้เสนอแนวทางไปยัง ศบค.ส่วนกลางถึงความจำเป็นในใช้แรงงานเพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลผลิตส่งโรงงานน้ำตาลที่จะเปิดหีบอ้อยในวันที่ 4 ม.ค.นี้
โดยกระบวนการก่อนนำเข้าแรงงานชาวกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ชายแดนสระแก้ว จะต้องมีการคัดกรองโรค รวมทั้งมีเอกสารยืนยันจากสำนักงานจัดหางานประเทศกัมพูชา ซึ่งเมื่อแรงงานข้ามแดนมาแล้วผู้ประกอบการจะต้องนำยานพาหนะรับแรงงานเข้าไปยังพื้นที่ตัดอ้อยในทันที รวมทั้งจัดพื้นที่กักกันตัวแบบกลุ่ม โดยกำหนดที่พักอาศัยสำหรับผู้เข้าพัก 10 คนต่อจำนวนห้องน้ำ 1 ห้อง
จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวทุกวันทั้งเช้า-เย็นจนครบ 14 วัน ก่อนจะอนุญาตให้ย้ายพื้นที่ไปรับจ้างตัดอ้อยยังแปลงอื่นๆ ได้ แต่หากพบการติดเชื้อโควิด-19 ในแรงงานกลุ่มใดจะต้องกลับเข้าสู่กระบวนการผลักดันกลับประเทศกัมพูชาในทันที
“แต่ปัญหาที่ผู้ประกอบการกำลังขอพูดคุยกับภาครัฐคือ ค่าใช้จ่ายในการตรวจโรคแรงงานที่ขณะนี้เฉลี่ยหัวละ 6,700 บาท ที่แม้ล่าสุดกรมควบคุมโรคจะลดค่าใช้จ่ายให้หัวละ 2,400 บาท แต่ผู้ประกอบการยังถือว่าราคาสูงเกินไป” นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา กล่าว
โดย นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยว่า ขณะนี้ ศบค.สระแก้ว อยู่ระหว่างหาข้อยุติในเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับนำแรงงานกัมพูชาเข้ามากักตัวเป็นเวลา 14 วันในประเทศไทย ก่อนส่งตัวให้เข้าไปรับจ้างตัดอ้อยในไร่ต่างๆ เพื่อให้ทันฤดูกาลเปิดหีบอ้อย ซึ่งผู้ประกอบการต้องให้ภาครัฐลดราคาในการตรวจโรคแรงงานโดยอ้างว่าราคายังสูงเกินไป
"ทางจังหวัดพยายามหาทางช่วยเหลือภายใต้มาตรการควบคุมแรงงานชาวกัมพูชาที่ยังต้องเข้มงวด ซึ่ง ศบค.สระแก้ว จะเปิดรับแรงงานชาวกัมพูชาวันละ 300 คน และจะแบ่งให้ข้ามแดนเข้ามาทางจุดผ่านแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ วันละ 200 คน จุดผ่านแดนบ้านเขาดิน อ.คลองหาด วันละ 100 คน จนกว่าจะครบ 12,000 คนตามที่ตกลง" ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าว