ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้จัดการหนุ่มชาวญี่ปุ่นป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คิดมากภรรยากลับบ้านไปเยี่ยมน้องชายที่ประสบอุบัติเหตุช่วงก่อนปีใหม่แล้วยังไม่ยอมกลับมา แชตข้อความคุยกันเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนพลัดตกจากโรงแรมที่พักชั้น 6 เสียชีวิต
เวลาประมาณ 06.30 น.วันนี้ (6 ม.ค.) ร.ต.ท.คุณาทิป ขุ่ยคำมี ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้พลัดตกจากโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองศรีราชา จึงประสาน พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ พลวงษ์ศรี ผกก.สภ.ศรีราชา พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ตั้งศิริเสถียร รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.อรรคพงษ์ จตุพรม สว.สส. เจ้าหน้าที่กู้ชีพลั่นทม โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยทำ CPR ร่างชายชาวญี่ปุ่น ที่นอนหมดสติอยู่บริเวณด้านหลังโรงแรม ทราบชื่อต่อมาคือ นายชินยะ โนซากิ อายุ 40 ปี เป็นผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โดยผู้บาดเจ็บมีอาการหมดสติปลุกไม่ตื่น มีอาการทางกระดูกบริเวณแขนข้างขวา โดยทำการ CPR อยู่นานประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่กู้ชีพยืนยันว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้ว หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบในห้องพักชั้น 6 ของผู้เสียชีวิต พบว่าภายในห้องอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้นใดๆ รวมทั้งกล้องวงจรปิดของโรงแรมไม่พบว่าช่วงเวลาเกิดเหตุไม่มีผู้ใดเข้าออกจากห้องดังกล่าว จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเจตนากระโดดฆ่าตัวตายเอง จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าเป็นผู้มีกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย
น.ส.ณัฐฐิญา เจริยไกรรัตน์ อายุ 55 ปี แม่บ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองกำลังล้างผลไม้อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดังตุ๊บ จึงเดินออกมาดู พบร่างคนนอนอยู่ที่พื้นบริเวณที่เกิดเหตุ ครั้งแรกนึกว่าคนเป็นลม จึงวิ่งไปบอกเจ้าหน้าที่ที่บริเวณเคาน์เตอร์ให้รีบออกมาดู จึงทราบว่ามีคนตกอาคาร รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
จากการสอบสวนเพื่อนของแฟนผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาวญี่ปุ่นมีภรรยาเป็นคนไทย แต่ขณะเกิดเหตุภรรยาชาวไทยกลับไปเยี่ยมญาติที่ประสบอุบัติเหตุที่ต่างจังหวัดตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งวันเกิดเหตุยังไม่ได้กลับมา ซึ่งผู้เสียชีวิตได้มีการแชตข้อความคุยกับภรรยาเมื่อคืนที่ผ่านมาก่อนที่จะมาก่อเหตุดังกล่าว รวมทั้งพบว่าชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตนั้นมีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้าด้วย จึงอาจเป็นสาเหตุให้ก่อเหตุฆ่าตัวตายในครั้งนี้
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อประสานญาติให้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะมอบหมายให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนให้ญาติมารับร่างไปดำเนินการตามศาสนาต่อไป