ลำปาง - รองอธิบดีกรมการขนส่งเผยคนผวาโควิด ทยอยคืนตั๋วรถโดยสารต่อเนื่อง คาดช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คนเดินทางลดลงถึง 40%
วันนี้ (28 ธ.ค.) นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ตระเวนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมมาตรการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ภาคเหนือตอนบนและได้เดินทางมายังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง ซึ่งพบว่ามีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
โอกาสนี้ นางจันทิราได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งการตรวจคัดกรองผู้คนที่เข้ามาภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกคน และผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย, มีการลงทะเบียนด้วยการเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ หรือให้สแกนผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ, มีจุดล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือล้างมือด้วยสบู่ และน้ำสะอาด ตลอดจนกำหนดที่นั่งภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ให้เว้นระยะห่างกันเพื่อความปลอดภัย
ส่วนผู้โดยสารที่จะขึ้นไปบนรถโดยสารประจำทางสาธารณะ เพื่อเดินทางข้ามจังหวัดนั้น พนักงานประจำรถทุกคัน จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิภายร่างกายซ้ำอีกครั้งก่อนขึ้นไปบนรถ เน้นย้ำให้สวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลาขณะนั่งรถโดยสารประจำทาง และหมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกฮอล์ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการให้บริการรถก็จะมีการหมั่นทำความสะอาดเบาะนั่ง และภายในรถด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อให้เกิดความสะอาด
นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เทศกาลปีใหม่นี้จะมีจุดเช็กพอยต์รถโดยสารสาธารณะทุก 120 กิโลเมตร ซึ่งจะมีการตรวจเข้มทั้งคนขับ รถโดยสาร และมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับด้านสาธารณสุขบนรถ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ว่าสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามการเตรียมตัวเดินทางของประชาชนก่อนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่ามีการทยอยคืนตั๋วรถที่จองไว้ เพราะเป็นห่วงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้วเดินทางกลับ โดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ทำให้ยอดการเดินทางกับรถโดยสารประจำทางสาธารณะลดลง 30-40%
“ขอย้ำว่าการเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสาธารณะยังมีความปลอดภัย ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกก็เน้น ให้ผู้ประกอบเข้มงวดมาตรการต่างๆ ทั้งหมั่นทำความสะอาดเบาะนั่ง และภายในรถอยู่ตลอดเวลาเพื่อฆ่าเชื้อ การสแกนร่างกายวัดอุณหภูมิทุกคนก่อนขึ้นรถ และให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัย 100% ขณะนั่งอยู่บนรถ และที่สำคัญ คือ การนั่งห่างกัน เพื่อเป็นการเส้นระยะห่างทางสังคมซึ่งจะทำให้การเดินทางปลอดภัย และมั่นใจกลับภูมิลำเนาได้ตามปกติ”
