กาฬสินธุ์ - กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม อ.ยางตลาด ระบุสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ตลาดกุ้งสมุทรสาคร ไม่กระทบกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ เพราะเป็นกุ้งน้ำจืดเลี้ยงในพื้นที่และไม่ได้ส่งไปที่ตลาดกุ้งสมุทรสาคร ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจรับประทานปลอดภัยไม่มีเชื้อโควิด-19
วันนี้ (27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการจำหน่ายกุ้งก้ามกรามซึ่งเป็นกุ้งน้ำจืด และเป็นสัตว์เศรษฐกิจสร้างรายได้อันดับหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์ และขายดีตลอดปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเกษตรกรเลี้ยงกันมากในเขต ต.บัวบาน ต.นาเชือก ต.เขาพระนอน ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด และ ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ ปัจจุบันพบว่าบรรยากาศการซื้อขายเริ่มมีความคึกคักมากขึ้น
หลังจากที่ประสบภาวะซบเซาจากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ช่วงแรก เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และจำหน่ายกุ้งระบุว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในระลอกใหม่ช่วงปลายปีนี้ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อในหลายจังหวัด ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตลาดกุ้งกาฬสินธุ์มากนัก
เนื่องจากไม่ได้นำเข้า หรือนำส่งกุ้งที่แถบจังหวัดภาคกลางหรือ จ.สมุทรสาคร แต่อย่างใด ทั้งนี้ยังมีเกษตรหลายรายนำกุ้งก้ามกรามน้ำจืดไซส์ใหญ่จากบ่อขึ้นมาวางขายที่บริเวณหน้าบ้านของตนเอง รับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้พ่อค้าและลูกค้ามาเลือกซื้อได้ตามสะดวก โดยมีการประกาศขายทางโซเชียลฯ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการตลาดตลาดกุ้งในยุคนิวนอร์มัลไปในตัวอีกด้วย
นายเข็ม ภูนาวรรณ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 105 หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง กล่าวว่า ตนมีพื้นที่เลี้ยงกุ้งจำนวน 6 บ่อ ซึ่งได้ทำการเลี้ยงและขุนกุ้งให้มีขนาดตัวโต ตั้งเป้าจับจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ที่จะถึงนี้ ซึ่งปกติจำหน่ายที่ปากบ่อให้กับพ่อค้าคนกลาง ที่มาจากต่างจังหวัดทั่วภาคอีสาน ในราคา กก.ละ 250 บาท แต่พอเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เมื่อต้นปีหรือช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา คือ มีการปิดตลาด ปิดแหล่งท่องเที่ยว ปฏิบัติตามมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ ส่งผลกระทบต่อการค้าขาย และเศรษฐกิจโดยรวม
ดังนั้น พอเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในช่วงนี้ ตนจึงได้จัดบริเวณหน้าบ้านเป็นตลาดจำหน่ายกุ้งก้ามกราม เผื่อไว้หากมีการปิดร้านอาหารเหมือนที่ผ่านมา โดยทำบ่อพักกุ้งเพื่อจำหน่าย ไซส์ใหญ่ 10-15 ตัว/กก. จำหน่าย กก.ละ 300 บาท ขณะที่กุ้งรวม 20-30 ตัว/กก. จำหน่าย กก.ละ 280 บาท
ด้านนางวาสนา กำลังชัย อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 195 หมู่ 4 แม่ค้าคนกลางขายกุ้ง กล่าวว่า ก่อนมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตนและญาติ ซึ่งเป็นทั้งผู้เลี้ยงกุ้งและพ่อค้าคนกลางจะนำกุ้งไปส่งให้กับลูกค้าตามต่างจังหวัด ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือตอนล่าง ตามตลาดสด ร้านอาหาร แต่จากการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ดังกล่าว จึงได้เปิดหน้าบ้านขายกุ้งก้ามกรามตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ที่จะถึงนี้
โดยช่วงแรกนั้นราคาตกต่ำมาก จากปากบ่อหากเป็นกุ้งรวม ราคา กก.ละ 250 บาท ลดลงเป็น กก.ละ 180 บาท ขณะที่หากนำมาคัดไซส์ขายก็จะได้ราคาที่สูงขึ้น เริ่มตั้งแต่ กก.ละ 280-300 บาท ซึ่งคิดว่าจะยืนราคานี้ต่อไป เพราะเห็นลูกค้าประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและเดินทางมาซื้อถึงที่
“ยืนยันว่ากุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ เลี้ยงในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้รับน้ำจากชลประทานเขื่อนลำปาว ไม่ได้นำมาจากแหล่งอื่นหรือตลาดในเขตจังหวัดภาคกลาง ที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด โดยเฉพาะที่สำคัญไม่ได้นำไปส่งที่ตลาดกุ้ง ในเขตจังหวัดสมุทรสาคร ผู้บริโภคจึงมั่นใจในคุณภาพของกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ ในความสด สะอาด ปลอดภัย จำหน่ายในราคาที่เป็นธรรม โดยได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพจากกรมประมงด้วย” นางวาสนากล่าว
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การเกิดแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในหลายพื้นที่ คาดว่าจะกระทบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ และส่งผลให้ตลาดกุ้งก้ามกรามเปลี่ยนไป ที่อาจจะไม่สามารถนำส่งลูกค้าในบางจังหวัดได้ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม จึงมีการปรับตัว เปิดหน้าบ้านเป็นตลาดจำหน่ายกุ้งดังกล่าว ให้พ่อค้า ลูกค้ามาเลือกซื้อได้ตามสะดวก โดยมีการประกาศขายทางโซเชียลฯ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการตลาดตลาดกุ้งในยุคนิวนอร์มัลไปในตัวอีกด้วย