อุบลราชธานี - จังหวัดออกประกาศต้องสวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้าน ไปในที่สาธารณะ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งปรับและจำคุก ขณะเดียวกัน บุกตรวจตามห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ กำชับใช้มาตรการเข้มรับมือโควิด-19 ระลอกใหม่ ขณะห้างระบุยอดซื้อขายช่วงปีใหม่ลดลงร้อยละ 5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเมธา รุ่งฤทัยวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและพาณิชย์จังหวัด ตระเวนตรวจตามห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในจังหวัด กำชับให้ผู้ให้บริการต้องเข้มงวดกับประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้า ต้องสวมหน้ากาก 100% มีจุดแจกเจลใช้ล้างมือ พร้อมสแกนไทยชนะก่อนเข้าใช้บริการ เพราะเป็นมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่พบการระบาดอยู่ในหลายจังหวัดของประเทศ
พร้อมทั้งได้ตรวจดูราคาสินค้าที่นำมาจัดกระเช้า รวมทั้งตราชั่งใช้ตวงวัด และป้ายแสดงราคาสินค้า โดยสินค้าที่นำมาจัดกระเช้าต้องไม่หมดอายุ ราคาสินค้าต้องตรงกับราคาป้ายที่จัดแสดงไว้ ตราชั่งต้องได้มาตรฐาน
ซึ่งพบว่าแต่ละห้างมีการปฏิบัติตามาตรการที่สาธารณสุขกำหนดไว้ และยังไม่พบการเอาเปรียบผู้บริโภคขึ้นราคาสินค้า พร้อมทั้งมีแนวโน้มการซื้อขายในเทศกาลปีใหม่ 2564 ลดลงราวร้อยละ 5 เนื่องจากมีผู้บริโภคเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าน้อยกว่าปกติ เพราะระวังตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกัน จังหวัดได้ออกประกาศให้ประชาชนที่จะออกจากเคหสถาน เดินทางไปในที่สาธารณะ หรือพบปะกับบุคคลอื่น ต้องใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่พบการระบาดของโควิด-19 รอบที่ 2 มีคนกลุ่มเสี่ยงเป็นพ่อค้าแม่ค้าและคนทำงานเดินทางมาจากจังหวัดที่เกิดการแพร่ระบาดกว่า 140 คน จึงนำตัวมารับการตรวจหาเชื้อ ผลการตรวจยังไม่พบมีคนติดเชื้อในขณะนี้