พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ เมืองกรุงเก่ายังไม่ล็อกดาวน์จังหวัด เน้นให้ทุกภาคส่วนคุมเข้ม บังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ล่าสุดพบป่วยจำนวน 3 ราย 1 ราย เดินทางกลับจากจังหวัดทางภาคเหนือ อีก 2 รายเป็นผู้จำหน่ายอาหารทะเลสดในอำเภอภาชี
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อพิจารณามาตรการในการป้องกันและควบคุมจากโรคไวรัสโควิด-19 โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยในที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 3 ราย 1 รายเดินทางกลับจากจังหวัดทางภาคเหนือ อีก 2 รายเป็นผู้จำหน่ายอาหารทะเลสดในอำเภอภาชี ทั้งนี้ ทุกรายได้เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยแยกโรค (Cohot Ward) โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) และทางจังหวัดได้ดำเนินการปิดพื้นที่ทำความสะอาดและนำตัวผู้มีความเสี่ยงเข้าตรวจหาโรคโควิด-19 แล้ว และผลเป็นลบทั้งหมด ทั้งนี้นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้หารือในที่ประชุมถึงมาตรการการคุมเข้มการป้องกันการแพ้ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะออกมาตรการเป็นคำสั่งจังหวัดต่อไป
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังไม่ประกาศล็อกดาวน์จังหวัด ซึ่งในที่ประชุมเห็นตรงกันว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังไม่มีเครื่องบ่งชี้ว่าจะต้องปิดการทำกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคมในพื้นที่ จึงมีมติในการออกมาตรการในการปฏิบัติให้เข้มข้นมากขึ้น
โดยเฉพาะแหล่งตลาด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อ โดยให้ดำเนินการตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเข้มข้น เช่น การคัดกรองไข้ การเว้นระยะห่างของร้าน การใส่หน้ากาก การใช้แอปไทยชนะ ส่วนที่ 2 ตลาดที่มีการขายสินค้าอาหารทะเลไม่ว่าจะเป็นขายปลีกหรือแพกมา ให้ผู้ประกอบการตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหารและให้ศูนย์ปฏิบัติการออกตรวจตราการนำสินค้ามาจำหน่าย
ส่วนกิจกรรมที่มีคนรวมกันเป็นหมู่มาก เช่น การสวดมนต์ข้ามปี การจัดกิจกรรมปีใหม่ ทางจังหวัดจะออกมาตรการให้ปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค และหากมีคนรวมกันตั้งแต่ 300 คนขึ้นไปให้ผู้จัดเสนอแผนมายังศูนย์ปฏิบัติการระดับอำเภอหรือท้องถิ่น เพื่อให้ตรวจและแนะนำได้ รวมถึงต้องสามารถเข้าไปตรวจสอบงานที่จัดขึ้นได้ ส่วนเรื่องของการปิดสถานศึกษา ให้พิจารณาถึงระดับความเสี่ยง โดยมีสถานศึกษาปิดไปแล้วจำนวน 28 แห่ง ส่วนสถานที่สำคัญทางศาสนาต้องมีการเข้มในการคัดกรองผู้ที่จะมาไหว้พระอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ทางจังหวัดจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยวว่าทางจังหวัดได้ออกมาตรการคุมเข้มตามกรมควบคุมโรคกำหนดทุกประการ