กาญจนบุรี - ทนายเสี่ยสรรค์ เข้าพบ กกต.กาญจน์ ยื่นหนังสือเร่งรัดพิจารณาคดีร้องเรียนหมอหนุ่ย ผู้สมัครนายก อบจ.เบอร์ 1 แจกเสื้อก่อนสมัคร หวั่นมีการประวิงเวลา ก่อนประกาศรับรองผล หวั่นเสียหายหนัก หากศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิในภายหลัง
จากกรณีนายเชาว์ มีขวด ทนายความส่วนตัวนายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ หรือเสี่ยสรรค์ ผู้สมัครนายก อบจ.กาญจนบุรี เบอร์ 2 เข้าพบ กกต.กลาง เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.63 เพื่อขอให้เร่งวินิจฉัยชี้ขาดผู้สมัครนายก อบจ.กาญจนบุรี เบอร์ 1 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย ที่ถูกนายรังสรรค์ ร้องร้องเรียนเมื่อวันที่ 23 พ.ย.63 ว่ามีการแจกเสื้อยืดที่มีโลโก้ของตนเองให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เดินทางมาให้กำลังใจในวันสมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 พ.ย.63 ว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม
โดยนายเชาว์ ขอให้ กกต.เร่งวินิจฉัยชี้ขาดก่อนวันเลือกตั้งโดยมีมติระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือให้ใบส้มนายสุรพงษ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทั้งผู้สมัครรายอื่น รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพราะหากปล่อยให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งแล้วนายสุรพงษ์ ได้รับเลือกตั้งแล้วหลังจากนั้นถ้า กกต.วินิจฉัยว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความผิดแล้ว กกต.ก็ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ทำให้สูญเสียงบประมาณ
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ นายเชาว์ มีขวด ทนายความส่วนตัวของนายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือขอให้เร่งรัดสืบสวนไต่สวนและสรุปสำนวน ตามคำร้องเรียนที่ 1/2563 โดยมีนายขวัญเพชร ถนอมนาม ผอ.กกต.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี และนายสมยศ บุญทาน รอง ผอ.สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมรับหนังสือ
ทั้งนี้ นายขวัญเพชร ถนอมนาม ผอ.กกต.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังว่า สำหรับเรื่องการร้องเรียน ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรีได้รับการร้องเรียนมา เรื่องร้องเรียนดังกล่าวเราก็จะนำเข้ากระบวนการตามกฎหมายและตามระเบียบว่าด้วนการสืบสวนสอบสวนและไต่สวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งการทำงานเรามีกรอบระยะเวลาในการทำงานอยู่แล้ว เราจะมีการดำเนินการไปตามกรอบระยะเวลา ซึ่งการที่เราทำงานไม่ใช่เพียงแค่กรอบระยะเวลาเพียงอย่างเดียว แต่การทำงานต้องขึ้นอยู่กับการสืบสวน การสอบสวน และการไต่สวนด้วย
ซึ่งความยากง่ายของสำนวน ความยากง่ายของการดำเนินการอยู่ที่สำนวนแต่ละสำนวน ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกัน แต่เราขอยืนยันว่าการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี เรายืนยันเกี่ยวกับเรื่องการทำงาน ซึ่งการทำงานเราจะทำด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย
สำหรับกรอบระยะเวลาในการสอบสวนและไต่สวนตามระเบียบของการสอบสวนและไต่สวนเรามีระยะเวลาในการดำเนินการ 20 วัน และสามารถขอขยายเวลาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15 วัน แต่ถ้าหากสำนวนการสืบสวนไต่สวนยังไม่แล้วเสร็จต้องรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาต่อไป
แต่สำนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรีขอยืนยันในเรื่องของการทำงานว่าเราจะไม่ทำงานให้เนิ่นช้าออกไป เพราะความรวดเร็วคือความยุติธรรม สำหรับการร้องเรียนมีอยู่ด้วยกัน 5 เรื่อง มีทั้งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผู้สมัครนายก และผู้สมัครสมาชิก อบจ.ซึ่งจะดำเนินการสืบสวนและไต่สวนต่อไป
ด้านนายเชวร์ เปิดเผยว่า ตนทราบว่าผู้สมัครเบอร์ 1 ส่งตัวแทนไปแจ้งความร้องทุกข์ตัวผมต่อพนักงานสอบสวน แต่อันที่จริงแล้วผมทำตามขั้นตอนของกฎหมาย สำหรับสิทธิในการไปแจ้งความดำเนินคดีตามระบบของกฎหมายซึ่งเป็นระบบการกล่าวหาก็สามารถที่จะดำเนินการได้ ต้องไปพิสูจน์กันว่าทำผิดหรือไม่อย่างไร เพราะผมได้ให้ข่าวไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
คือได้มาร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี เรื่องที่ร้องเรียนนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ผู้สมัครตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหมายเลข 1 ว่าได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากในวันรับสมัครเลือกตั้ง นายสุรพงษ์ ได้เกณฑ์คนกันมาเป็นจำนวนมากถึง 400-500 คน และมีการใส่เสื้อของตนเองที่มีทั้งชื่อ โลโก้ และสีเสื้อเดียวกันทั้งหมด
จากการสืบสวนในเชิงลึกของผม ผมได้พยานหลักฐานมาว่าบุคคลเหล่านั้นถูกจ้างมามีการได้รับแจกเสื้อและได้รับการแจกเงินด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อได้พยานหลักอย่างนี้ผมจึงมาร้องขอความเป็นธรรมจาก กกต.เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อที่จะได้ทำความจริงให้ปรากฏ และเพื่อที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมร้องไม่เกินเลยขอบเขตของกฎหมาย
เพราะว่า กกต.ก็ได้ทำงานล่วงเลย 20 วันไปแล้ว ผมจึงไปร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรุงเทพฯ เพื่อเร่งรัดให้วินิจฉัยชี้ขาดก่อนวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เมื่อมีสื่อมวลชนมาสัมภาษณ์ผมก็ให้ข่าว และผมก็โพสต์ แชร์ข่าวของสื่อมวลชนลงในเฟซบุ๊กซึ่งถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ และข้อเท็จจริงไม่ได้มีการบิดเบือน ซึ่งข้อเท็จจริงที่ผมได้ให้ข่าวไป ก็เป็นพยานหลักฐานที่ผมสืบสวนมา แล้วนำมาให้ กกต.ไต่สวนสืบสวนแล้วและเป็นความจริงด้วย
นายเชาว์ กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาในวันนี้ ผมมายื่นเรื่องให้เร่งรัดในการสืบสวนไต่สวน และเร่งให้สรุปสำนวน เนื่องจากการเลือกตั้งได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และปรากฏว่าคะแนนของผู้ได้รับการเลือกตั้งคือผู้สมัครหมายเลข 1 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เพราะฉะนั้นตามกรอบของกฎหมาย คณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องประกาศผลภายใน 30 วัน แต่เรื่องร้องเรียนนายสุรพงษ์ ยังค้างอยู่ที่ กกต.
ซึ่งในส่วนของนายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่เป็นผู้ร้องโดยมีผมเป็นทนายความในคดี ได้นำพยานเข้าสืบสวนไต่สวนจนเสร็จสิ้นแล้ว และมีความมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่ปรากฏนั้นสมารถที่จะเอาผิดกับนายสุรพงษ์ ได้ แต่ยังเหลือในส่วนของนายสุรพงษ์ ซึ่งจะต้องมารับทราบข้อกล่าวหา จะต้องมาให้ถ้อยคำ จะต้องนำพยานเข้ามาไต่สวนสืบสวนต่อพนักงานสอบสวนและสืบสวนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้แต่งตั้งขึ้นมา
ซึ่งกรอบระยะเวลาตามที่ ผอ.กกต.ได้ชี้แจงให้ทราบแล้วว่ามันมีกรอบเวลาอยู่แค่ 20 วัน โดยถ้านับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ที่ร้องเรียนมาจนถึงวันนี้ก็ครบ 1 เดือนแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ยังสามารถขอขยายเวลาได้อีกครั้งละ 15 วัน รวม 2 ครั้ง 2 ครั้งก็คือ 1 เดือนกับ 20 วัน อย่างไรเสียผมเชื่อว่าคงจะไม่เกิน 30 วันก่อนที่จะมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของผู้ถูกร้อง ส่วนตัวผมเชื่อว่าต้องประวิงคดี ซึ่งผมกำลังติดตามอยู่ว่าเขาจะมายื่นแก้ข้อกล่าวหาและจะมาพบเจ้าหน้าที่ กกต.เพื่อนำพยานมาแก้ข้อกล่าวหาอย่างไรบ้างเพื่อจะได้ติดตามกันต่อ โดยผมจะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะว่าเป็นเรื่องสำคัญ ถ้า กกต.ได้วินิจฉัยก่อนที่จะมีการรับรองผลการเลือกตั้งก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เรื่องของผู้ที่ถูกร้องไม่ต้องไปค้างคา แต่ขณะเดียวกัน ผู้ถูกร้องได้ไปปฏิบัติหน้าที่ ถ้าต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งในภายหลัง ความเสียหายก็จะตกกับส่วนราชการ จะสูญเสียงบประมาณ จะสร้างความเสียหายมากกว่า ก่อนที่จะมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง นายเชาว์ กล่าว