สมุทรสาคร - สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 242 ราย จากช่วงเที่ยงของวานนี้ ทำให้มียอดสะสมจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 1,063 ราย เพิ่มขึ้น 27.91% รอผลตรวจอีกกว่า 2.3 พันราย
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยวันนี้ (22 ธ.ค.) ว่า มีรายงานการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จากศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 242 ราย จากเดิมเมื่อวานนี้มีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 821 ราย รวมขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมที่ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครทั้งสิ้น 1,063 ราย คิดเป็นยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 27.91%
ขณะที่การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยงโดยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยดำเนินการไปแล้วจำนวน 6,156 ราย ทราบผลแล้ว 3,808 ราย รอผลตรวจ 2,348 ราย ซึ่งผู้เข้ารับการตรวจส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นแรงงานข้ามชาติ แต่จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบในขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากแต่เดิมเคยตรวจพบเชื้อมากกว่า 40% แต่ปัจจุบันการตรวจพบเชื้อลดลงมาที่ 27.91%
โดยวันนี้ รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน จำนวน 2 คัน ได้มาตั้งจุดให้บริการที่เคหะเอื้ออาทรท่าจีน ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้ใช้แรงงานและครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในบ้านเอื้ออาทรท่าจีน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 2,500 ราย
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มบุคคลภายนอกที่ประสงค์จะขอเข้าตรวจหาเชื้อด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็อำนวยความสะดวกให้ด้วยการจัดรถคัดแยกกลุ่ม ระหว่างผู้ที่พักอาศัยในบ้านเอื้ออาทรท่าจีน กับบุคคลภายนอกที่ขอเข้าตรวจ อีกทั้งยังจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากมีแนวโน้มว่าจะให้บริการไม่ทันต่อช่วงเวลานั้น จะมีการเสริมรถตรวจเคลื่อนที่เข้ามาเพิ่มอีก เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ด้านความพร้อมของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานวันนี้ มีทั้งเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรค เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลบ้านโป่ง จ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งจะดำเนินการจนกว่าภารกิจจะแล้วเสร็จ
ขณะที่บรรยากาศของกลุ่มผู้ที่เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 นั้น มีแรงงานข้ามชาติจำนวนมากมาเข้าแถวรอตรวจ เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร เนื่องจากที่บ้านเอื้ออาทรท่าจีนแห่งนี้ มีแรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยทางผู้บริหารการเคหะฯ ได้มีการแบ่งโซนอย่างชัดเจนระหว่างที่พักคนไทย 27 อาคาร กับที่พักของแรงงานต่างด้าวอีก 29 อาคาร ซึ่งแรงงานต่างด้าวที่พักอยู่ในนี้เกือบทั้งหมดเป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบการ มีนายจ้าง หรือเจ้าของสถานประกอบการเป็นผู้เช่าให้พักอาศัย และมีการจัดรถรับส่งให้อีกด้วย